จากกรณีที่ น.ส.นกยักษ์ (สงวนชื่อและนามสกุลจริง) อายุ 32 ปี ที่ป่วยเป็นโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 ส.ค.และหลบหนีออกจากโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา กลับมายังห้องเช่าซึ่งอยู่ใน จ.สมุทรปราการ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ห้องเช่าของ น.ส.นกยักษ์ อยู่ภายในซอยถุงเท้า ชุมชนวัดสำโรงเหนือ หมู่ 4 ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้พบคณะกรรมการชุมชนและชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว ต่างพากันแตกตื่นและเฝ้าดักรอ น.ส.นกยักษ์ อยู่ที่บริเวณกลางซอยทางเข้าชุมชน เนื่องจากเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่า น.ส.นกยักษ์ ยังไม่เข้ามาที่ห้องพัก จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงวัน ได้พบ น.ส.นกยักษ์ ได้นั่ง จยย.รับจ้างเข้ามาในซอยดังกล่าว จึงได้ส่งสัญญาณให้ จยย.รับจ้างคันดังกล่าวจอด และให้ น.ส.นกยักษ์ลงและนั่งรออยู่ที่กลางซอย ก่อนที่คณะกรรมการชุมชนจะได้ติดต่อประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้จัดรถมารับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ โดยระหว่างรอเจ้าหน้าที่ได้ให้ไปรอเก็บตัวในห้องเช่าของตนเองก่อน พร้อมกับล็อกกุญแจเพื่อป้องกันการหลบหนี

น.ส.นกยักษ์ กล่าวว่า ตนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกุมภวาปี มาได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว และคิดถึงแฟนจึงหนีออกมาจากโรงพยาบาลกุมภวาปี ตอน 9 โมงเช้า โดยนั่งแท็กซี่มาจากอุดรธานีให้มาส่งที่สมุทรปราการ บริเวณหน้าห้างอิมพีเรียลสำโรง ก่อนนั่ง จยย.รับจ้างเข้ามาห้องเช่าซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็นอนอยู่ที่ห้องเช่าแต่มาตอนเช้าตนได้นั่งแท็กซี่ไปที่บ้านอา ซึ่งอยู่ในย่านถนนกิ่งแก้ว ก่อนที่จะเดินทางกลับมาที่ห้องเช่า ส่วนสาเหตุที่ตนหนีออกมาเนื่องจากคิดถึงแฟน ที่ติดโควิดเหมือนกัน ถูกส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามซึ่งอยู่ในย่านอำเภอบางพลี ตอนนี้ตนสำนึกผิดแล้วและไม่คิดที่จะหนีไปไหนแล้วจะขอรักษาตัวอยู่ที่นี่

ด้าน น.ส.มาลินี ธนมโนสุข กรรมการและเลขาชุมชนวัดสำโรงเหนือ หมู่ 4 กล่าวว่า ตอนนี้ต้องนำตัวผู้ป่วยเข้าไปกักตัวที่ห้องเช่าของเขาก่อน และจะมีเจ้าหน้าที่คอยส่งอาหาร และสิ่งของที่จำเป็นให้ก่อน ทางเราได้ติดต่อกับทางจังหวัด แต่ต้องรอเอกสารของผู้ป่วยก่อน เพื่อเข้ารับการรักษาแต่ตอนนี้ทางโรงพยาบาลที่จังหวัดอุดรธานี กำลังประสานงาน ส่งเอกสารมาให้ แต่ตอนนี้เป็นความรับผิดชอบของชุมชน ที่ต้องรับผู้ป่วยมากักตัวก่อน และประสานไปทางสถานีอนามัยสำโรงกลาง ให้ประสานและจะดำเนินการนำผู้ป่วยไปรักษาให้เร็วที่สุด