เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและชุดประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) รับแจ้งขอสนับสนุนให้เข้าช่วยเหลือ นำตัว อดีตครูโรงเรียนเอกชน วัย 50 ปี ผู้ป่วยติดเตียง ออกมาจากบ้านพัก พื้นที่หมู่ 2 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าช่วยเหลือ ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ภายหลังมวลน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากเข้าท่วมจนไม่สามารถออกมาจากตัวบ้านได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยว ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ประกอบกับบ้านหลังดังกล่าวอยู่ในสวนยางพารา มีลำคลองล้อมรอบ และอยู่ห่างจากพื้นที่สูงประมาณ 1 กิโลเมตร บรรดาญาติและครอบครัวจึงไม่สามารถช่วยเหลือนำตัวออกมาเอง ต่างเป็นกังวล เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนท.รุดช่วยหนุ่มใหญ่ติดอยู่ในศาลากลางกระแสน้ำป่า ท่วมสูงเกือบมิดหลังคา
โดยก่อนเข้าช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ จำเป็นต้องวางแผนร่วมกับนายสะอาด ขันเงิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.แหลมสอม และผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น เพื่อทราบถึงสภาพพื้นที่เพื่อกำหนดจุดเส้นทางเข้าออกให้ปลอดภัยที่สุด ก่อนเดินสำรวจ และนำเปลตะกร้า เข้าไปช่วยเหลือแบกผู้ป่วยฝ่ากระแสน้ำออกมา กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงบ้านผู้ป่วย พบว่าระดับน้ำท่วมสูงขึ้นเกือบถึงเตียงผู้ป่วย จึงรีบช่วยเหลือนำตัวผู้ป่วยใส่เปลออกมาพร้อมภรรยา อย่างทุลักทุเล เนื่องจากระยะทางที่ไปกลับประมาณ 2 กิโลเมตร และบางช่วงมีระดับน้ำท่วมถึง 2 เมตร รวมถึงมีกระแสน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก ก่อนนำตัวฝ่ากระแสน้ำออกมาได้อย่างสำเร็จ และปลอดภัย ท่ามกลางความลุ้นระทึกของชาวบ้านที่รอคอยอยู่บริเวณข้างนอก หลังจากนำตัวออกมาปรากฏว่า ผู้ป่วยมีอาการซึมลง จึงเร่งประสานศูนย์นเรนทรตรัง นำรถกู้ชีพฉุกเฉินของ รพ.ย่านตาขาว มารับช่วงต่อบริเวณริมถนนพื้นที่สูง นำตัวเข้ารับการรักษาตรวจร่างกายทันที
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169210-1024x577.jpg)
นายณรงค์ ตุลยสุข หรือโดโด้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง กล่าวว่า บรรเทาตรังได้รับแจ้งจากท้องถิ่น และนายณัฐวุฒิ สังข์สุข นายอำเภอปะเหลียน ว่า น้ำป่าไหลหลากพื้นที่บ้านหาดเลา จึงจัดชุดตอบโต้ภัยพิบัติของมูลนิธิฯ ออกมาพร้อมกับเรือท้องแบน และชุดเฉพาะกิจ ทั้งหมด 15 นาย เข้าพื้นที่มาช่วยเหลือ ก่อนรับการขอความช่วยเหลือให้เข้าช่วยผู้ป่วยติดเตียงที่ติดอยู่ภายในบ้านออกมาจากบ้าน จึงได้มีการวางแผนประเมินสถานการณ์ สอบถามผู้นำท้องถิ่นที่คุ้นชินและสภาพของพื้นที่ ก่อนจะทราบว่า สามารถเดินเข้าไปได้ ก็จะนำเชือกผูกไว้เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดิน ระยะทางไปกลับประมาณ 2 กิโลเมตร ลำบากเป็นอย่างมาก เพราะแสงสว่างมีไม่เพียงพอ กระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ซึ่งความลึกตลอดระยะทางประมาณเอว ถึงหน้าอก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งหลังจากนำออกมาข้างนอกแล้ว ผู้ป่วยมีอาการซึม เพราะโรคประจำตัว และป่วยติดเตียงเดิมอยู่แล้ว และได้ประสาน รพ.ย่านตาขาว มารับตัวส่งต่อเข้าทำการรักษา
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169209-1024x577.jpg)
ภรรยาของผู้ป่วยรายดังกล่าว กล่าวว่า น้ำมาแรงและเร็วมาก จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายสามีออกมาได้ทัน จนระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะยกเตียงสามีให้สูงขึ้น โดยระดับน้ำเหลือแค่นิดเดียวก็จะถึงเตียงแล้ว หากไม่ได้กู้ภัยเข้าไปช่วยก็คงจะจมอยู่ตรงนั้น เพราะตนยอมแล้ว เนื่องจากจะนำออกมาเองก็ไม่ได้ เพราะเส้นทางลำบากและน้ำเชี่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งได้กู้ภัยเข้าไปช่วยก็ดีใจมาก ลำพังเพียงตนคนเดียวสามารถออกมาได้ แต่เพราะความเป็นห่วงสามีจึงต้องเฝ้าอยู่กับเขา โดยสามีป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นไตระยะสุดท้าย ซึ่งต้องฟอกไตตลอด เป็นความดัน ไขมัน โรคตับ โรคตา เบาหวาน และยังมีแผลกดทับ
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169203-1024x577.jpg)
นายสะอาด ขันเงิน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 กล่าวว่า ตอนแรกครอบครัวของผู้ป่วยคิดว่าน้ำคงมาไม่เยอะ แต่ปรากฏว่าน้ำกลับมามากและเร็ว จึงทำให้ติดอยู่ในบ้านกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งระดับน้ำที่บ้านสูงประมาณเกือบ 2 เมตร ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หมู่ 2 ต.แหลมสอม ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนประมาณ 140 ครัวเรือน และหมู่ 6, 5 ต.แหลมสอม ก็เข้าท่วมแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งตอนนี้น้ำก็ยังคงทรงตัว ซึ่งน้ำที่ท่วมครั้งนี้ ถือว่าหนักในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และที่เคยท่วมหนักสุดตอนช่วงปี 2562
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169180-1024x579.jpg)
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำป่าไหลหลากใน จ.ตรัง ได้รับความเดือดร้อนแล้วจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาโยง อ.ปะเหลียน อ.ห้วยยอด และ อ.ย่านตาขาว รวมผู้เดือดร้อนแล้วประมาณกว่า 2,000 ครัวเรือน โดยจะหนักสุดในพื้นที่ 15 หมู่บ้านของ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่สามารถเก็บข้าวของหรือขนย้ายได้ทัน เนื่องจากน้ำป่าได้หลากลงมาอย่างรวดเร็ว และต้องหนีเพื่อเอาชีวิตรอดไว้ก่อน โดยหากฝนไม่ตกเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์คงจะคลี่คลายลงในเร็ววัน ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/001-6-1024x577.jpg)
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169178-1024x586.jpg)
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169176-1024x587.jpg)
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/S__5169220-1024x577.jpg)