เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร จ.สกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรม “จุรินทร์ ออนทัวร์” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ใน 6 เขตเลือกตั้งของ จ.สกลนคร โดยมีประชาชนชาวสกลนคร มารอผูกผ้าขาวม้าและมอบพวงมาลัยดอกไม้

สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 6 คน ได้แก่ 1.นายสาคร พรหมภักดี อดีต ส.ส. 5 สมัย 2.นายวีรศักดิ์ พรหมภักดี ทนายความ และอดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สกลนคร 3.ผศ.อภิลักษณ์ เคนไชยวงศ์ อดีตรองคณบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมศรีสงคราม มหาวิทยาลัยนครพนม 4.นายชาตรี หล้าพรหม อดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรี ตำบลเขียงสือ 5.นางยุพาวรรณ จักรพิมพ์ ซีอีโอเครือข่ายสหกรณ์และวิสาหกิจ จ.สกลนคร และ 6.นายณปภัช เสโนฤทธิ์ อดีต Project Manager ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์

จากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จ.สกลนคร เคยมี ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ มาแล้ว 7 สมัย ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์กับคนสกลนคร จึงมีความผูกพันกันมายาวนาน สำหรับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์จะนำมาขายให้กับชาวสกลนครในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนั้น เราขายความเป็นประชาธิปัตย์ ขายนโยบาย ขายผลงานให้ชาวสกลนครอยู่ดีกินดีต่อไปในอนาคต ที่สำคัญคือขายผู้สมัครที่พรรคคัดสรรบุคคลที่มีศักยภาพ และมีความรู้ความสามารถที่จะไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงแทนคนสกลนคร

“ที่บอกว่าขายความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากความผูกพันที่ต่อเนื่องมายาวนานแล้ว ในเรื่องนโยบายและผลงาน พี่น้องคงเห็นอยู่ชัดเจนว่า ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งที่เข้าร่วมรัฐบาล แม้เรามีแค่ 52 เสียง ใน 500 เสียง แต่ 3 ปีกว่าๆ จนเข้าปีที่ 4 ประชาธิปัตย์สร้างผลงานให้กับคนไทยทั้งประเทศมากเกินจำนวนเสียงที่ได้รับมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายประกันรายได้เกษตรกร จึงเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่ประชาธิปัตย์ทำมากับมือ ไม่เฉพาะกับคนภาคเหนือ คนภาคกลาง คนภาคใต้ แต่ให้กับคนอีสานเป็นการเฉพาะด้วย” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ย้ำในอนาคต ต้องทำให้ภาคอีสานลืมตาอ้าปากได้ด้วยการทำอีสานเชื่อมประเทศ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและทำอีสานเชื่อมโลกด้วยนโยบายอีสานเชื่อมไทยอีสานเชื่อมโลก ใช้การเกษตรเป็นฐาน และใช้การส่งออกสร้างเงินให้ประเทศ รวมทั้งใช้การท่องเที่ยว สร้างเงินให้กับชาวอีสาน และต่อไปสกลนครต้องขายการท่องเที่ยวพร้อมกับซอฟต์เพาเวอร์ ที่เป็นการนำศิลปวัฒนธรรมวิถีชีวิตของคนอีสาน และมีความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองมาขาย เพื่อดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอีสาน และสกลนครต่อไป.