สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ว่า ฟีเจอร์ป้องกันการฆ่าตัวตายของทวิตเตอร์ถูกนำออกไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตามข้อมูลของคนสองคนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ ซึ่งกล่าวว่าการนำฟีเจอร์ออกนั้นเป็นไปตามคำสั่งของ นายอีลอน มัสก์ เจ้าของคนใหม่ของทวิตเตอร์

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเอลลา เออร์วิน หัวหน้าฝ่ายความไว้วางใจและความปลอดภัยของทวิตเตอร์ ออกมายืนยันว่า ทางบริษัทนำฟีเจอร์ดังกล่าวออกไปจริง แต่เป็น “เพียงชั่วคราว” เนื่องจากทวิตเตอร์กำลังแก้ไขความเกี่ยวข้อง, ปรับขนาดของข้อความแจ้งเตือน และแก้ไขข้อความแจ้งเตือนที่ล้าสมัย

ฟีเจอร์ข้างต้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ #ThereIsHelp จะอยู่ที่ด้านบนสุดของผลการค้นหาสำหรับบางหัวข้อ ซึ่งมันระบุถึงการติดต่อองค์กรด้านความช่วยเหลือในหลายประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต, เอชไอวี, วัคซีน, การแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก, โควิด-19, ความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ, ภัยธรรมชาติ และเสรีภาพในการแสดงออก

แต่กระนั้น มันยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ฟีเจอร์ดังกล่าวได้รับการกู้คืนในหมวดหมู่อื่น ๆ ด้วยหรือไม่ เพราะมันไม่ปรากฏในคำค้นหาบางคำที่ทวิตเตอร์เคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ เช่น #HIV

แม้ทวิตเตอร์จะแบนไม่ให้ผู้ใช้งานส่งเสริมการทำร้ายตัวเอง แต่กลุ่มความปลอดภัยของผู้บริโภควิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่บริษัทอนุญาตให้โพสต์ในสิ่งที่พวกเขากล่าวว่า “ละเมิดนโนบาย” อีกทั้งการหายไปของ #ThereIsHelp ยังส่งผลให้กลุ่มบางกลุ่มและผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนแสดงความกังวล เกี่ยวกับสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้ที่เปราะบางของแพลตฟอร์ม

ด้าน น.ส.อีร์ลิอานี อับดุล ราห์มาน จากกลุ่มที่ปรึกษาด้านเนื้อหาของทวิตเตอร์ ซึ่งถูกยุบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ กล่าวว่า การหายไปของ #ThereIsHelp นั้น “น่าอึดอัดอย่างยิ่ง” และการลบฟีเจอร์ออกไปเพื่อทำการปรับปรุงใหม่เป็นเรื่องที่ “ผิดปกติ”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES