เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน สรุปว่า ไทยมีความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวโดยไม่เจาะจงว่าเป็นประเทศใดในทุกมิติซึ่งมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นมาตรการที่มีความเหมาะสม ส่วนในกรณีที่ประเทศใดมีข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา เช่นต้องตรวจ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับประเทศต้นทาง นักท่องเที่ยวต้องซื้อบัตรประกันสุขภาพก่อนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยต้องครอบคลุมการรักษาโรค โควิด-19 ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่เท่าเทียม เป็นธรรมทั้งประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวและประเทศต้นทาง

นายอนุทิน กล่าวว่าขณะเดียวกันก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยต้องให้นักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 อย่างน้อยสองเข็มหากมีอาการป่วยทางเดินหายใจควรเลื่อนการเดินทางและรักษาให้หายก่อนเพื่อลดการแพร่ระบาด ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้น ซึ่งมาตรการต่างๆจะมีการปรับเปลี่ยนและลดหลั่นได้ตามความเหมาะสม พร้อมกันนี้ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอ ขอความร่วมมือ ให้โรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจัดซุ้มอำนวยความสะดวกสำหรับตรวจ RT-PCRด้วย

นายอนุทินกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม วันที่ 9 ม.ค.จะมีนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกเดินทางจากประเทศจีนเข้าประเทศไทยโดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยว จะเดินทางไปตรวจความพร้อมและเยี่ยมการปฎิบัติงานตรวจสอบสถานการณ์เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและคนไทยทุกคนในวันที่ 12 ม.ค. และยืนยันทุกฝ่ายมีความพร้อมทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสแรกตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค.2566 ประมาณ 300,000 คน หรือประมาณร้อยละ 5 ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน ซึ่งคาดว่าเดือน ม.ค.เข้ามา 60,000 คน , ก.พ. 90,000 คน , มี.ค.150,000 คน และจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้จากข้อมูลการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 พบว่าประชาชนจีนรับวัคซีนครบสองเข็มแล้วในสัดส่วนร้อยละ 90.8 ส่วนค่าเหยียบแผ่นดินเป็นมาตรการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขณะนี้ยังต้องหารือจึงยังไม่มีผลบังคับใช้

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนโรงแรม, ร้านอาหารที่ได้รับมาตรฐานsha และSha+ พนักงานเสิร์ฟและเชฟยังต้องสวมหน้ากากอนามัยโดยยึดถือตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อ ยืนยันมาตรการที่ออกมาเป็นไปตามความคิดเห็นของทีมแพทย์ที่มองว่าเชื้อโควิด-19 อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ เพราะคนไทยและคนต่างชาติมีภูมิคุ้มกันอยู่บ้างแล้ว ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะนี่เป็นโอกาสได้เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากความสูญเสียต่างๆที่ได้รับมากว่า 3 ปีจากการระบาดของโควิด ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญอย่างมากต่อประเทศและยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมากมายและน่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะพลิกฟื้นซ่อมแซมเสริมสร้างความเสียหายให้กับประเทศในโอกาสต่างๆก็จะกลับมา

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ได้สั่งการสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ทั้งสถานพยาบาล Hospitel เพื่อรองรับผู้ที่มีผลตรวจพบเชื้อ โควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้บริการและอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและคมนาคมให้ปฎิบัติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่รวมกลุ่มจำนวนมากในพื้นที่แออัด หากป่วยมีอาการทางเดินหายใจ เช่นไอ เหนื่อย เป็นไข้ ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กับผู้อื่น และยังคงเน้นย้ำให้เข้ารับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อความปลอดภัย.