จากกรณีการจัดคอนเสิร์ตระดับโลกของวง BLACKPINK “THE BORN PINK WORLD TOUR” ที่ประเทศไทย เป็น 1 ใน 42 เมืองใหญ่ของโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 7-8 ม.ค. นี้ ที่สนามศุภชลาศัย (สนามกีฬาแห่งชาติ) นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่มาที่ไปของการจัดคอนเสิร์ต BLACKPINK ครั้งนี้ ทางกรมพลศึกษา ได้ร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของ บริษัท เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาก่อนหน้านี้เป็นเวลา 1 ปีแล้ว ซึ่งการกิจกรรมใหญ่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่อนคลายลง บวกกับช่วงนั้นกระแสของลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) เป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” ของประเทศไทย สร้างกระแสโด่งดังไปทั่วโลก จึงได้เสนอแผนการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น โดยมีทาง เทโร กับ บริษัท วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG) ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ เป็นแม่งานหลัก

อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวต่อไปว่า การที่ YG ตัดสินใจเลือกสนามศุภชลาศัย จัดคอนเสิร์ต BLACKPINK ก็เพราะเขามองว่าเคยผ่านการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ของโลกอย่าง “MICHAEL JACKSON DANGEROUS WORLD TOUR LIVE IN BANGKOK 1993” ของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อปของโลก เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้วมาแล้ว รวมทั้งสนามศุภชลาศัย ก็ยังได้รับเลือกจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ให้เป็นสถานที่จัดพิธีบูชาขอบพระคุณ หรือ มิสซา เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จมาเยือนประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2562 มาแล้วอีกด้วย จึงถือว่า เป็นสถานที่ที่มีศักยภาพ ที่สำคัญเหตุผลของทาง YG คือ การที่แฟนคลับเดินทางมาชมคอนเสิร์ตได้ง่ายและสะดวกสบายนั่นเอง

“นโยบายสำคัญของรัฐบาล คือต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และลิซ่าเอง ก็เป็นซอฟต์เพาเวอร์ ของประเทศด้วย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องปฏิเสธคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ ในครั้งนี้”

ส่วนประเด็นดราม่าของเหล่าแฟนคลับ ที่มีต่อการเลือกสถานที่จัดกิจกรรมครั้งนี้นั้น ทางอธิบดีกรมพลศึกษา มองว่า เป็นเรื่องปกติ เป็นมุมมองของเหล่าแฟนคลับ ที่มีความเป็นห่วง จึงสะท้อนแนวคิดได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่กรมพลศึกษา เป็นเจ้าของสถานที่นั้น มองว่าไม่มีที่ไหนที่จะสมบูรณ์เพอร์เฟกต์ 100 เปอรเซ็นต์แน่นอน ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้อยู่ที่ผู้จัดคือทางเทโร และ YG เป็นผู้ตัดสินใจเลือก ซึ่งกว่าจะตัดสินใจอะไรลงไป ทางเทโร จะมีการประสานงานส่งแผนงานไปให้กับทาง YG ได้พิจารณาตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้ว มีการตรวจสอบและวางแผน ตัดสินใจเลือกแนวทางที่ดีที่สุด ก่อนจะออกมาเป็นไฟเขียวเลือกสนามศุภชลาศัยในที่สุด

“กรมพลศึกษา เป็นเพียงเจ้าของที่ ไม่มีอำนาจตัดสินใจ และเมื่ออนุญาตให้ผู้จัดดำเนินการแล้ว ก็เป็นเรื่องของผู้จัดที่จะดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ ที่ผ่านมา ก็มีคนอยากจะขอเข้าไปถ่ายภาพภายในสนามศุภชลาศัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่สามารถทำได้ เพราะว่าทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของทางเทโร และ YG ที่เขาต้องสงวนสิทธิ์ตรงนี้ไว้”

สำหรับเรื่องมาตรฐานการจัดงานนั้น ผมมองว่า YG เป็นบริษัทออร์แกไนซ์ระดับโลก ผ่านการจัดงานมาแล้วนับไม่ถ้วน ก่อนมาจัดที่เมืองไทย ก็ไปจัดที่สหรัฐอเมริกา ถึง 7 เมือง รวมทั้งที่ยุโรป อีก 7 ประเทศ เขาเองคงไม่ลดมาตรฐานของตัวเองลงอย่างแน่นอน เรื่องที่น่าดีใจแทนประเทศไทย คือ การที่เราได้เป็นประเทศแรกของเอเชีย ที่ YG ได้เลือกจัดคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลกในครั้งนี้

ดร.นิวัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้ฝ่ายจัดแข่งขันขายบัตรเข้าชมเพียง 40,000 ใบ เพราะคำนึงถึงเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยของเหล่าแฟนคลับเป็นสำคัญ ส่วนสนามศุภฯ เอง ที่ผ่านการจัดงานระดับโลกมาแล้ว ก็มีความคงทนแข็งแรง ย้อนไปเมื่อตอนก่อสร้าง 80 ปีที่แล้ว ยังเป็นสนามกีฬาอันดับต้นๆ ของทวีปเอเชีย ที่ชาติยักษ์ใหญ่ต่างมาดูงานทั้ง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

นอกจากนี้ เราเองมีการปรับปรุงครั้งใหญ่มาแล้ว รวมทั้งยังมีการตรวจโครงสร้างของสนามเป็นระยะๆ ที่สำคัญโครงสร้างของสนามศุภฯ ไม่ได้ใช้ระบบการตอกเสาเข็ม แต่ใช้ระบบการวางท่อนซุง ซึ่งเป็นระบบโบราณ จึงสามารถรองรับการยุบตัวหรือการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี จึงมีความปลอดภัยสูงอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันหลังการจัดงานแล้ว ทางกรมพลศึกษา จะมีการประเมินสภาพสนามอีกครั้ง หากเกิดความเสียหายก็จะแจ้งให้กับผู้จัดงาน เพื่อดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมต่อไป.