เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์จุดเปลี่ยนการเมืองไทยภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ประเมินว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจาก 2 ป. แยกกัน ส่งผลให้เกิดสงครามแย่ง ส.ส. ตัดคะแนนกันเองในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญพรรคที่เสนอชื่อนายกฯต้องมี ส.ส. 25 คนขึ้นไป หาก 2 ป. ผ่านด่านแรกต้องไปแย่งเสียง 250 ส.ว. และหากได้เสียง ส.ส. ในสภาไม่ถึง 50% จะไม่สามารถผ่านกฎหมายบริหารประเทศได้ ดังนั้นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจเปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ เพราะต้องการสร้างความมั่นใจและดึง ส.ส. เข้าพรรคให้มากที่สุด

ผศ.ดร.ปริญญา ประเมิน สาเหตุที่ 2 ป. ยอมเข้ามาเล่นในกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เปรียบในสนามเลือกตั้งทุกครั้ง เนื่องจาก 2 ป. ประเมินสถานการณ์พลาด ไม่คิดตัวเองจะเจอช่วงขาลง พร้อมเทียบเคียงจากตัวเลขผู้ไปใช้สิทธิการเลือกตั้งเมื่อปี 62 จำนวน 35 ล้านคน หากใช้สูตรหาร 100 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 3.5 แสนคะแนน แต่หากใช้สูตรหาร 500 ค่าเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งคนคือ 7 หมื่นคะแนน

ดังนั้น หากเทียบเคียงผลสำรวจ “นิด้าโพล” เรื่องคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565 พบ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้คะแนน 7% หากใช้ระบบเดิมหาร 500 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 35 คน แต่ในระบบใหม่หาร 100 ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แค่ 7 คน หรือหากเอาคะแนนนิยม พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ 14% มาคำนวณเมื่อใช้ระบบหาร 100 เท่ากับได้ ส.ส. แค่ 14 คน และเมื่อเปรียบเทียบกับพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 41% หากใช้ระบบหาร 100 จะได้ ส.ส. 41 คน และหากเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขต 210 เขต เท่ากับเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ ส.ส.เกินครึ่ง โอกาสเดียวที่ 2 ป. จะชนะ คือไม่แตกกัน

“พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงและเมื่อ 2 ป. แตกกัน ส่งผลให้อำนาจ อิทธิพลต่างๆ คลายลงมา ตอนนี้เดินมาถึงจุดเปลี่ยนการเมือง 9 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จากที่เคยสามัคคี ต้องแย่ง ส.ส. แย่งคะแนนเสียงประชาชน แย่งเสียง ส.ว. และจะได้คะแนนเสียงในสภาผู้แทนราษฎรไม่ถึงครึ่ง ถ้าองค์ประกอบ ปัจจัยต่างๆ เป็นแบบที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ ผมว่าจบแล้ว คสช. จบแล้ว” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว

สำหรับประเด็นการรัฐประหารหลังเลือกตั้ง ผศ.ดร.ปริญญา ชี้ว่า 9 ปีที่ผ่านมา กระแสเปลี่ยนข้าง หลังจากนี้ กระแสประชาธิปไตยเต็มใบจะกลับคืนมา การปฏิวัติสำเร็จต้องมี 2 เงื่อนไข คือ 1.ทหารเป็นปึกแผ่น และ 2.การเมืองที่มาจากการเลือกตั้งต้องตกต่ำมากๆ แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับข้าง เชื่อว่าการรัฐประหารทำไม่ได้ และถึงทำก็ไม่สำเร็จ.

ขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก “Prinya Thaewanarumitkul”