สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมยูเครนรายงานว่า กองทัพรัสเซียซึ่งได้รับความสนับสนุนจากกองกำลังทหารรับจ้าง “วากเนอร์” ยกระดับปฏิบัติการที่เมืองโซเลดาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมสำคัญของภูมิภาคดอนบาส อยู่ทางตะวันออกของประเทศ ส่งผลให้ทหารยูเครนต้องเป็นฝ่ายถอยร่น เนื่องจากวากเนอร์เสริมกำลังอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
The Russian Armed Forces have now concentrated their main efforts on #Soledar, but the result of this hard and prolonged battle will be the liberation of the entire #Donbass from the #Russian occupation. This statement was made by Volodymyr #Zelenskyy in his evening address. pic.twitter.com/t9tGTqT24k
— NEXTA (@nexta_tv) January 10, 2023
Ukraine is repelling constant attacks on Bakhmut and other towns there by Russian mercenary group Wagner, Ukrainian authorities said https://t.co/sxGceOzEQh pic.twitter.com/DU3YkrmUql
— Reuters (@Reuters) January 9, 2023
สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังนายเยฟกินี พริโกซิน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของวากเนอร์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า สมาชิกของวากเนอร์ เดินหน้ามอบความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องให้แก่ทหารรัสเซีย ในสมรภูมิที่เขตบัคมุต หนึ่งในเขตใหญ่ของภูมิภาคดอนบาส สถานที่ตั้งของเมืองบัคมุตและเมืองโซเลดาร์

พริโกซิน กล่าวว่า โดยส่วนตัวเขาคาดหวังให้ทั้งทหารรัสเซียและกองกำลังวากเนอร์ ร่วมกันยึดเหมืองในเมืองโซเลดาร์ และเมืองบัคมุต เนื่องจากเหมืองทั้งสองแห่งคือ “โครงข่ายใต้ดิน” หรือ “เมืองใต้ดิน” ซึ่งสามารถเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้คนจำนวนมาก ที่ระดับความลึก 80-100 เมตรจากผิวดิน ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ข้างใต้ยังมีความกว้างและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอ ในการเคลื่อนย้ายยานรบหุ้มเกราะด้วย บ่งชี้ว่า เครือข่ายเหมืองใต้ดินในบริเวณนี้ คือ “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ใต้ดินที่สำคัญยิ่ง”
ขณะที่เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านั้น สื่อตะวันตกหลายแห่งรายงานโดยอ้างเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบขาว ซึ่งคาดการณ์ว่า พริโกซินส่งนักรบวากเนอร์ร่วมการสู้รบในสมรภูมิบัคมุต เนื่องจากต้องการครอบครองเหมืองเกลือและเหมืองแร่ยิปซัมในพื้นที่ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่ได้ให้ความเห็นอย่างชัดเจนว่า พริโกซินต้องการเหมืองทั้งหมด “ด้วยเหตุผลทางทหาร”.
เครดิตภาพ : REUTERS