สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลิมา ประเทศเปรู เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของเปรูและผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลของประธานาธิบดี ดีนา โบลูอาร์เต ในหลายพื้นที่ของภูมิภาคปูโน ทางตอนใต้ของประเทศ ตลอดวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมวลชนส่วนใหญ่เป็นฝ่ายสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเปโด กัสติโย จากพรรคฝ่ายซ้าย ซึ่งถูกสภาแห่งชาติถอดถอนเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา และอยู่ภายใต้การควบคุมตัวนาน 18 เดือน เพื่อรอการไต่สวนในข้อหาเกี่ยวกับ “การเป็นกบฏ” และ “การทุจริตคอร์รัปชั่น”
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า เหตุรุนแรงตลอดวันดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 68 คน นอกจากนั้นมีเจ้าหน้าที่อีก 28 นายได้รับบาดเจ็บด้วย ถือเป็น “วันนองเลือดที่สุด” ของการเคลื่อนไหวบนท้องถนน เพื่อต่อต้านรัฐบาลของผู้นำหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของเปรู และเพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุรุนแรงทางการเมืองที่สุดในรอบหลายทศวรรษของประเทศ เป็นอย่างน้อย 39 ราย
State of Emergency declared in Peru as protests paralyze traffic in 5 regions
— The Rio Times (@TheRioTimes) January 9, 2023
Protests continued in the country for almost a week as activists demanded the resignation of President Dina Boluarte, the return to freedom of Pedro Castillo, the convening of a constituent assembly. pic.twitter.com/caFGNAjhpk
เดิมทีเปรูมีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2567 อย่างไรก็ตาม สภาคองเกรสเปรูรับรองคำร้องของโบลูอาร์เต เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งมาเป็นภายในเดือนเม.ย. 2567 เพื่อหวังบรรเทาความโกรธแค้นของประชาชน ทว่าสถานการณ์กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม ทั้งที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของเปรู ที่เป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับสองของโลก.
เครดิตภาพ : REUTERS