สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ว่า นายเยฟกินี พริโกซิน มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของ “วากเนอร์ กรุ๊ป” องค์กรทหารรับจ้างระหว่างประเทศรายใหญ่ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า นักรบของวากเนอร์ ซึ่งให้การสนับสนุนกองทัพรัสเซีย สามารถยึดครองอาณาเขตทั้งหมดของเมืองโซเลดาร์ ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนได้แล้ว


ตอนนี้ นักรบวากเนอร์จัดการตั้งฐานที่มั่นในเขตใจกลางเมืองโซเลดาร์ เพื่อควบคุมการสู้รบที่ยังคงเกิดขึ้นตามท้องถนน การประกาศดังกล่าวของพริโกซินเกิดขึ้น ในเวลาเดียวกับที่กระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักรเคยเผยข้อมูลข่าวกรองของตัวเองว่า หลังรุกคืบอย่างหนักติดต่อกัน 4 วัน มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่วากเนอร์จะสามารถควบคุมเมืองโซเลดาร์สำเร็จ


ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครน ออกแถลงการณ์ว่า ทหารยูเครนยังคงตั้งมั่นอยู่ตามฐานในเมืองโซเลดาร์ เพื่อต้านทานการโจมตีของกองทัพรัสเซียและวากเนอร์ ซึ่งยังคงต้องการยึดครองเมืองโซเลดาร์ เหมืองเกลือขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป แล้วใช้เป็นเส้นทางเชื่อมไปยังเมืองบัคมุต เมืองใหญ่อีกแห่งที่อยู่ใกล้กัน


ทั้งนี้ พริโกซิน เคยกล่าวว่า ทหารรัสเซีบและกองกำลังวากเนอร์ต้องร่วมกันยึดเมืองโซเลดาร์ และเมืองบัคมุต ที่เป็นเมืองใหญ่ของเขตบัคมุต ในภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน เนื่องจากเหมืองทั้งสองแห่งคือ “โครงข่ายใต้ดิน” หรือ “เมืองใต้ดิน” ที่ระดับความลึก 80-100 เมตรจากผิวดิน มีความกว้างและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอ ในการเคลื่อนย้ายยานรบหุ้มเกราะด้วย บ่งชี้ว่า เครือข่ายเหมืองใต้ดินในบริเวณนี้ คือ “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ใต้ดินที่สำคัญอย่างยิ่ง”


ขณะที่ ทำเนียบขาวยังคงวิเคราะห์เพียงว่า พริโกซินส่งนักรบวากเนอร์ร่วมการสู้รบในสมรภูมิบัคมุต เนื่องจากต้องการครอบครองเหมืองเกลือและเหมืองแร่ยิปซัมในพื้นที่ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง แต่ยังสงวนท่าทีในการให้ความเห็นเกี่ยวกับ “ผลประโยชน์ทางทหาร”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES