เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 14 ม.ค. ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะจัดงานวันเด็ก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เปิดให้เด็กเข้าไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งในปีนี้ มีเด็กและเยาวชนให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดยเด็กที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรกคือ เด็กหญิงโชติกา มั่งมี (น้องกุ๊บกิ๊บ) นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนวัดราชสิงขร แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จากการสอบถามน้องกุ๊บกิ๊บ ได้มาเที่ยวงานวันเด็ก ณ ทำเนียบรัฐบาล ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยในปีนี้ตั้งใจเป็นอย่างมาก ที่จะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก ได้ตื่นนอนตั้งแต่ตี 5 เพื่อเตรียมตัวมาเดินทางมาทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับคุณยาย และเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลในเวลา 06.00 น.

“น้องกุ๊บกิ๊บ” กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากกว่าทุกปี ที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก ส่วนสาเหตุที่เลือกมาเที่ยวทำเนียบรัฐบาล เพราะชอบลงุตู่ และเป็น Fan Club ของลุงตู่ ติดตามลุงตู่อยู่ตลอดเวลา และชอบการจัดงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีกิจกรรมหลากหลายให้ร่วมเล่นกิจกรรม ที่สำคัญคืออยากจะพบกับลุงตู่ ถ่ายรูปคู่ลงตู่ พร้อมกันนี้ น้องกุ๊บกิ๊บได้กล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ลุงตู่ สู้ ๆ อย่าถอย เป็นกำลังใจให้ลุงตู่ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย

สำหรับบรรยากาศการจัดงานวันเด็กภายในทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆ เยาวชน พร้อมผู้ปกครองทยอยเดินทางมาเป็นจำนวนมาก บางคนมากับครอบครัว บางคนมาพร้อมกับเพื่อน และมาเป็นกลุ่มพร้อมคณะครูที่โรงเรียน โดยต่างให้ความสนใจกับการนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พร้อมร่วมกิจกรรมซุ้มต่างๆ

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ อันดับแรก ต้องขอขอบคุณในน้ำใจจากลูกๆ หลานๆ ที่ได้ส่งบัตรอวยพรและงานฝีมือของตัวเองมาให้เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานให้กับบ้านเมือง ในฐานะนายกรัฐมนตรี และได้ขออวยพรให้ดำเนินภารกิจต่างๆ ไปได้ด้วยความสำเร็จราบรื่น ตนขอรับน้ำใจและความระลึกถึงกันจากเด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติไว้ด้วยความขอบคุณยิ่ง

“โอกาสนี้ ผมจึงขอส่งมอบความปรารถนาดีไปยังเด็กไทยทั่วประเทศ ผ่านคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี อีกทั้งในวันนี้ (14 ม.ค. 65) ผมได้เปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับเด็กๆ และจัดกิจกรรมที่มีแนวคิดหลัก 3 ประการ คือการปลูกฝัง “ใจรักชาติ”, ภาคภูมิ “ความเป็นไทย” และให้โอกาสแสดงพลังอำนาจของเด็กไทย ซึ่งผมจะได้ร่วมรับชม รับฟัง การนำเสนอผลงาน และแลกเปลี่ยนความเห็น การนำเสนอความคิดผ่านมุมมองของตัวแทนเยาวชน 10 ทีมอีกด้วย”

พลอ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะนายกฯ ตนให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในวันเด็ก แต่ในทุกๆ วัน ทั้งวันนี้และวันข้างหน้า ในบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยได้ผลักดันแนวทางการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนอย่างรอบด้าน มีความพร้อมทั้งความรู้และทักษะชีวิต ตามหลักกลยุทธ์ 4 H ได้แก่ ด้านอารมณ์-จิตใจ (Heart) คือ ความดี มีคุณธรรม ด้านสติปัญญา (Head) คือ ความเก่ง ฉลาดเฉลียว ด้านสุขภาพ (Health) คือ สุขภาพดี แข็งแรง ด้านทักษะฝีมืออาชีพ (Hand) คือ ทักษะที่สำคัญและจำเป็นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งทั้งหมดนี้ พื้นฐานที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของครอบครัว (Home) และชุมชน ในการบ่มเพาะเยาวชนให้เติบโตขึ้น เป็นพลเมืองคุณภาพของบ้านเมืองต่อไปในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ขอให้ลูกหลานไทยทุกคน วางใจไว้ในที่ๆ ถูกต้องเหมาะสม วางความคิดไว้ในทางที่จะเป็นประโยชน์ ไม่มีโทษต่อทั้งตัวเรา ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ และวางตัวในการหมั่นเพียร ทั้งการเรียนและการทำความดี เท่านี้เราก็จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมได้อย่างแน่นอน.