คงต้องเรียกว่าร้อนแรงไม่เบาทีเดียวสำหรับข่าวของหนุ่มหล่อชาวสิงคโปร์ แดริล ยัง สามีคนปัจจุบันของนางแบบสาวสวย ซาร่า คาซิงกินี ที่ล่าสุดออกมาถูกโยงไปเกี่ยวข้องกับคดีแชร์ Forex-3D ที่คนดังหลายคนมีส่วนถูกโฟกัสและทำให้สาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช และแม่รวมถึงพี่ชายต้องเข้าเรือนจำมาแล้ว งานนี้ทำเอาคนห่วงสาวซาร่ามากเพราะไปแต่งงานกับหนุ่มแดริลและพากันสงสัยว่าทำไมสาวซาร่าถึงตัดสินใจแต่งงานกับคนๆนี้

“เดลินิวส์ออนไลน์” เลยไม่พลาดพาทุกคนย้อนไปดูคำตอบของสาวซาร่าตอนควงหนุ่มแดริลมาออกรายการคุยแซ่บ show แล้วเผยเส้นทางรักแบบหมดเปลือกนั่นเอง

ซาร่า เผยว่า “เรื่องแต่งงานใหม่แล้วตอนนี้เรียกว่ากำลังแพลนที่จะแต่งงานแล้วกัน มีการสู่ขอแล้วเรียบร้อย จริงๆ ก็แพลนทุกอย่างไว้แล้ว น่าจะเร็วๆ นี้ เรื่องลงโพสต์ว่าแต่งงานแล้วจะเรียกว่าโป๊ะก็ได้ คือจริงๆ เราตั้งใจจะเซ็ตไว้เป็นเฟรน เราตั้งตอนที่เราง่วงๆ เราตั้งใจจะตั้งไว้เป็นเฟรนด์ แต่เฟรนด์เราก็หลายพันคนนะ ที่เห็นสเตตัสในเฟซหายแล้วคือยังอยู่ๆ แต่กลับไปเซ็ตเป็นแฟนเหมือนเดิม คือคนที่เป็นเพื่อนกับเรายังมองเห็น แต่ถ้าไม่ใช่เพื่อนจะมองไม่เห็น จริงๆ ก็มีคนเข้ามายินดีกับเราเยอะ แต่คอมเมนต์ที่ดราม่าก็นิดนึง อารมณ์แบบ แม่พักบ้าง แม่คุมนะ จะมีลูกคนที่สามหรือเปล่าอะไรประมาณนี้ สามีเราเขาชิลมาก เอาเป็นว่าเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก แต่ก็มีเล่าให้เขาฟัง แต่เขาชิล ไม่คิดอะไร แต่เขาถามว่าเราโอเคหรือเปล่า เราก็บอกว่าเราชิล เพราะเราอยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอ ซาร่าไม่มีลบคอมเมนต์ลบๆนะ ปล่อยไว้แบบนั่น ค่อยฟ้องเอา (ล้อเล่น)”

“เรื่องรักถามว่าเข็ดไหม จริงๆ เรามองความรักเป็นเรื่องที่สวยงาม แล้วทุกความรักที่ผ่านมา ถึงมันจะจบลงไม่ดี แต่ทุกครั้งเหมือนเราได้เรียนรู้กับตัวเอง ได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ได้ทบทวนตัวเอง คนเรามันมีข้อดี ข้อเสีย เราคิดว่าทุกๆ ความรักมันสอนให้เราได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเสมอ ทำให้เรารู้สึกอยากเป็นแฟน อยากเป็นภรรยาในเวอร์ชั่นที่มันดียิ่งขึ้น เรารู้สึกว่าผ่านอะไรมาเยอะถึงจุดจุดหนึ่งที่พอเรามาเจอคนคนนี้ คนล่าสุด เหมือนเรารู้สึกว่าเราเป็นเวอร์ชั่นที่ ครั้งแรกที่เป็นเรา มีคนคนหนึ่งเห็นคุณค่าเราจริงๆ มาจากการกระทำของเขา จากคำพูดของเขาที่บอกเรา เราก็เลยรู้สึกแบบเออ…มันมีคนเห็นแล้วนะความตั้งใจของเรา”

ซาร่า เล่าต่อว่า “แดริลเขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ตอนนั้นเหมือนเป็นวันเกิดเพื่อนแล้วนัดรวมกันทานข้าว เราก็ปิ๊งๆ กันตั้งแต่วันแรกเลย นั่งกันอยู่ 10 กว่าคน ที่ชอบเขาสิ่งแรกของซาร่าเลย คือต้องยอมรับว่าเป็นคนมองคนแค่หน้าตาก่อน คือเราเป็นคนชอบคนหน้าตาดีในสไตล์ของเรา ก็ทำให้เราสนใจมองที่เขา แล้วพอนั่งไปสักพักรู้สึกว่าเขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ดูเจ้าชู้ ดูแบบสุภาพๆ ก็เลยยิ่งทำให้เราสนใจเขามากขึ้น เขาก็มีมองเรา แต่ไม่ได้มาคุยอะไรกับเรา คือต่างคนต่างนั่งแล้วก็คุยกันบนโต๊ะ หลังจากนั้นมีการฟอลโลว์ไอจี ถ่ายรูปกรุ๊ปแท็กกัน หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทักมาคุยกับเรา เราไม่ทักเขาก่อน เราเป็นคนที่ไม่กล้า เราเป็นผู้หญิง ตอนเขาทักมาก็กรี๊ด เขาทักมาแสดงว่าเขาต้องชอบเรา เขาทักมา say hi ปกติ เป็นไงบ้าง สบายดีไหม จำได้ไหมที่วันนั้นเราไปกินข้าวกันกับเพื่อนๆ เราก็บอกว่าจำได้ ก็คุยกันต่อ หลังจากนั้นก็มีการนัดกินข้าว ดูหนังกัน คนเริ่มสานสัมพันธ์เป็นทางเขาหมดเลย คือเราชอบเขานะ แต่เราเก็บอาการนิ่ง แต่เขาเป็นคนตรงๆ แล้วแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ”

“ที่มั่นใจเป็นเขาคือมันมีโมเมนต์หนึ่งที่เรานั่งรถกันไป แม็กซ์เวลล์ก็หันไปถามว่า ลุงๆ รักแม่ไหม เขาก็ตอบว่ารัก เขาก็บอกว่าถ้ารักแม่จริงๆ ยูต้องขอแม่แต่งงานนะ ยูต้องซื้อแหวนนะ เราก็คิดในใจ โอ้โห..พูดแบบนั้นออกไปถ้าผู้ชายไม่คิดนี่หนีแน่นอน แล้วหลังจากนั้นเขาก็หันมามองแม็กซ์เวลล์ โอเคเขาจะทำแบบนั้น แล้วเราก็คิดว่ามันคงเป็นฟิลพูดเล่นๆ พอวันเวลาผ่านไปมันก็เกิดขึ้นจริงๆย้อนกลับไปที่โมเมนต์ขอแต่งงาน จริงๆ ก็เรียบง่ายนะคะ เหมือนเขาแค่ชวนเราไปตรงทะเล ที่มาเลเซีย แล้วบอกว่าถ่ายรูปกัน ก็ทั้งครอบครัวเขา ญาติเขาอยู่ตรงนั้นหมดเลย คือเราก็ยืนถ่ายรูปกับเขาสักพัก เขาก็หันมาคุกเข่า เอาแหวนให้ เขาพูดอะไรจำไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรมาก เขาแค่ขอแต่งงาน เขาแค่ขอบคุณที่เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขอะไรอย่างนี้ แล้วก็นั่นแหละ เขาบอกว่าเขาจะเป็นคนดี จะพยายามนู้น นี่นั่น ประมาณนี้แหละเราก็เซย์เยสค่ะ หูดับ (ยิ้ม)”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากคุยแซ่บshow