เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ม.ค.) นายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อพบกับ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง ซึ่งร้องเรียนขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย โดยอ้างว่า น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ภรรยาของตัวเองไปมีชู้ ทั้งที่ตนและภรรยาต่างก็มีลูกด้วยกันแล้ว 3 คน
โดยนายเอ เล่าว่า ก่อนหน้าจะเกิดปัญหานั้น ตนประสบปัญหาด้านการเงิน ทำให้รถยนต์ที่ซื้อให้ภรรยาถูกยึด ตนกับภรรยาทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนระยะหลังภรรยาย้ายไปอยู่ห้องพี่สะใภ้ ซึ่งใกล้กับห้องของชายคนใหม่ โดยชายคนดังกล่าว เป็นคนพิการนั่งรถเข็นวีลแชร์ ซึ่งทั้งสองคบหามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแล้ว กระทั่งภรรยาพาลูก 3 คน ไปเลี้ยงดูที่บ้านชายชู้ด้วย
จนกระทั่งวันที่ 22 พ.ย.65 ตนขี่ จยย.ผ่านห้องของชายคนใหม่ พบว่า เสื้อยกทรง 2 ตัว และกางเกงในที่ตนเองซื้อให้ภรรยาแขวนอยู่ราวหน้าต่างห้องของชายคนใหม่ ทำให้ตนเองโกรธแค้นอย่างมาก ยืนด่าภรรยาด้วยคำหยาบคายนานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ภรรยาและชายคนใหม่ก็ไม่ยอมออกมาจากห้อง ตนโมโหจึงเดินไปสับสวิตช์คัตเอาต์ที่อยู่หน้าห้องลง ปรากฏว่าฝ่ายภรรยาไปแจ้งความกล่าวหาตนทำนองว่าไปขโมยกางเกงในของเขาไป โดยให้ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตนฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน ซึ่งตนได้เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและปฏิเสธข้อกล่าวหา
“…ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตอนซื้อรถผ่อนรถให้เขา แต่เขากลับหนีไปมีชายอื่น ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม ถึงมาทิ้งกันแบบนี้ อยากคุยกับอีกฝ่ายแต่เขาก็ไม่คุย…” นายธนกร พ่อค้าอาหารตามสั่ง กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ
ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ตนอยากให้ฝ่ายผู้หญิงมาเจรจามาพูดคุยกันก่อน ว่าจะเอายังไง เพราะแต่ละฝ่ายมีลูกด้วยกัน 3 คน เดี๋ยวถ้าเดินหน้าต่อระวังจะจบไม่สวย การที่จะบอกว่าสามีลักทรัพย์ต้องมีหลักฐาน มีของกลางด้วย ตนยังไม่ได้ไปตามเรื่องร้อยเวรโรงพักปากเกร็ด คดีแบบนี้ตนอยากให้มองด้วยว่าคนนี้ คือ “พ่อของลูกตัวเอง” จะทำอะไรคิดให้ดี ๆ อย่าใช้อารมณ์ เรื่องแบบนี้ผู้ใหญ่ต้องไปคุยกันเอง อย่าลืมว่าทางนู้นมีสิทธิแจ้ง ทางนี้ก็มีสิทธิแจ้งเหมือนกัน ต่างคนต่างมีสิทธิ ตนอยากจะบอกว่าตอนที่สามีเขาไปเจอเหตุการณ์ที่ภรรยาอยู่กับชายคนใหม่ตำตา! โชคดีที่สามีไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ถ้าเขาอารมณ์ร้อนอาจจะไม่จบ
ทนายรณณรงค์ กล่าวอีกว่า มีคนมาปรึกษาตนทุกวันในเรื่องชู้สาวภายในครอบครัว เราต้องมีศีล 5 กันบ้าง จะได้ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ถ้าไม่อยากอยู่กับสามีบอกเลิกเขาดี ๆ ให้มันจบ ก่อนจะไปมีคนใหม่แค่นั้น ในส่วนของเรื่องคดีอย่างแรกเลย ฝ่ายภรรยาไม่มีหลักฐาน ว่าสามีเอากางเกงในไป คุณระวังจะโดนแจ้งความเท็จ ต่อให้เอาไปจริง เขาก็ขาดเจตนา เมื่อกี้ภรรยาเห็นตนเข้ามาที่บ้าน แล้วขับรถออกไปอยากให้มานั่งคุยกันกับสามีตัวเองก่อน เรื่องมันจะได้จบ ไม่อย่างนั้นเรื่องมันยาว ตนอยากฝากว่าคุณมีลูกด้วยกัน คุณจะเอาแม่เอาพ่อของลูกเข้าคุกไม่ได้ เด็กต้องอยู่กับพ่อและแม่ ไปตั้งหลักตั้งสติใหม่ สามีภรรยาที่อยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียนสมรส สิทธิทางกฎหมายมันไม่เกิด ไปฟ้องไม่ได้ แต่สิทธิบันดาลโทสะมันเกิดได้ แต่ไม่ใช่ให้ไปตีกัน เล่าให้เป็นอุทาหรณ์ว่ามันเกิดขึ้นได้.
