เมื่อวันที่ 16 ม.ค.กระทรวงศึกษาธิการ โดยคุรุสภา จัดงานวันครู ครั้งที่ 67 ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา” Teacher’s Power is the Heart of Transforming the Educational Quality ในรูปแบบผสมผสาน ทั้ง Onsite และ Online กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 16 – 17 ม.ค.2566 โดยจัดพร้อมกันทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบพิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดีหรือทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษา ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม โดย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันครู ครั้งที่ 67 พ.ศ. 2566 ว่า “ครูดี  ศิษย์ดี  มีอนาคต”

ทั้งนี้กิจกรรมงานวันครูเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า โดยมีพิธีทำบุญตักบาตรและถวายข้าวสารพระสงฆ์ ณ บริเสณสนามหญ้าหน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดย น.ส.ตรีนุช  เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธี และจากนั้นเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศให้แก่ครูผู้วายชนม์ พิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล และพิธีบูชาบูรพาจารย์ ณ หอประชุมคุรุสภา โดยมี ดร.อรรถพล  สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์  นายสุภัทร  จำปาทอง ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และนายมนัส  เจียมภูเขียว ครูอาวุโสในประจำการ นำกล่าวคำปฏิญาณตนของครูและบุคลากรทางการศึกษา

จากนั้นพล.อ. ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังหอประชุมคุรุสภาเป็นประธานงานวันครู  มีพิธีคารวะครูอาวุโสของนายกรัฐมนตรี สำหรับในปีนี้ ครูนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พลเอก เกษม  นภาสวัสดิ์  ครูที่เคยสอนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และมอบรางวัล จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2566 และรางวัลคุรุสภา ประจำปี 2565 “ระดับดีเด่น” รวมจำนวน 17 ราย

โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปราศัยเนื่องในวันครูปี 2566 ว่า ครูคือผู้ส่งเสริมปัญญาให้แก่ลูกศิษย์ให้มีคุณภาพมีคุณธรรมจริยธรรมและต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียน ซึ่งครูเป็นบุคลากรที่ดีที่สร้างคคคุณภาพออกสู่สังคม ขอเด็กและครูมีความผูกพันธ์ซึ่งกันและกัน ตามคำขวัญวันครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต นี่คืออาคำขวัญที่ตนอยากให้เชื่อว่าพลังครูจะเป็นหัวใจที่จะเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้นำการเรียนรู้ให้แก่เด็ก เพราะเด็กคือผ้าขาวที่จะใส่สีให้สวยงามแบบไหนก็ได้ เนื่องจากโลกใบนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมมีเทคโนโลยีเข้ามา ดังนั้นครูต้องทำให้เด็กก้าวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปให้ได้ และครูต้องเป็นผู้จุดประกายผู้นำความคิดให้แก่เด็ก เพราะหากเราได้ครูดีศิษย์ดีเด็กจะทำให้เด็กมีอนาคตประเทศก็จะมีอนาคตตามไปด้วย

นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินโครงสร้างเครือข่ายพื้นฐานอีอีซีพื้นที่เศรษฐกิจด้านตะวันออกตะวันออกเหนือใต้ต้องไปดูว่ารัฐบาลมีแผนเดินหน้าประเทศอย่างไรความเข้มแข็งทุกภูมิภาคทุกจังหวัดคือภาพใหญ่ที่รัฐบาลต้องทำให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับประเทศนอกบ้าน วันนี้รัฐบาลทำทุกด้านแล้วโครงสร้างพื้นฐานทางบกทางน้ำทางเรือท่าเรือสนามบินทำทุกอย่างนี่คือการเชื่อมโยงกับประเทศรอบบ้านในช่องทางที่มีศักยภาพ โดยสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ครูต้องศึกษานโยบายรัฐบาลและมาถ่ายทอดให้แก่เด็ก เพราะบางอย่างไม่มีในตำราเรียนต้องศึกษาจากแผนโยบายรัฐบาลเพื่อนำไปสู่ด้านวิชาการ เพราะการเรียนการสอนทั้งหมดก็คือการเรียนที่เรียกว่าแอคทีฟ learning ไม่ใช่สอนแต่ตำราอย่างเดียวและตอบคำถามอะไรใครไม่ได้ ส่วนการออกข้อสอบต้องเป็นข้อสอบที่ไม่อยากจนเกิดไป แต่ให้เด็กได้เรียนรู้จากข้อสอบและเกิดประโยชน์ในการพัฒนาตัวเองได้วันนี้เราต้องพัฒนาตนเองเรียนรู้อ่านหนังสือและฟังผู้รู้และดูว่าประเทศเดินหน้าไปอย่างไรบ้าง ตนพยามทำตัวอยู่ในกรอบในวินัยมาโดยตลอดครูสอนให้ผมเป็นคนดีและสุจริตยืนยันทุกอย่างจะต้องถูกดำเนินการตามกฏหมายทั้งสิ้นไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้นตราบใดที่มีคดีเกิดขึ้น

นอกจากนี้ครูต้องทำให้เด็กรู้จักรากเหง้าประวัติศาสตร์องชาติ แม้เด็กไทยกำลังสนใจวัฒนธรรมต่างประเทศก็ไม่ใช่สิ่งผิดแต่วัฒนธรรมของเรามันก็มีอยู่อย่าลืมรากเหง้าของตัวเองผมเคยพูดอยู่เสมอว่าถ้าเราไม่รู้ว่าความเป็นมาเป็นใครมาจากไหนเราก็จะไม่รักประเทศของเราไม่รู้จะรักไปทำไม เพราะมีคนเกี่ยวข้องหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าเราคือคนไทยเกิดมาจากที่นี่ประกอบอาชีพที่นี่กินนอนที่นี่นี่คือแผ่นดินของเราเราต้องถ่ายทอดให้ผู้คนสำนึกตรงนี้ถ่ายต้องให้เด็กสำนึกรักบ้านเกิดตัวเองทดแทนบุญคุณแผ่นดิน ดังนั้นครูจะต้องออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กเข้าใจตรงนี้เข้าใจรากเหง้าของตัวเองไม่ใช่ประวัติศาสตร์ไทยอย่างเดียวแต่รวมไปถึงประวัติศาสตร์ชุมชนประวัติศาสตร์ท้องถิ่นด้วย ครูต้องเอาเด็กไปศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียนไปศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชุมชนเพื่อให้เด็กทุกคนเรียนรู้ทำงานกลับไปพัฒนาตนเองที่บ้านได้ ครูต้องออกแบบการเรียนรู้ให้เด็กรู้จักแผ่นดินเกิดของตนเองอยู่บนพื้นฐานเด็กต้องสร้างความรู้ของตนเองได้ได้ได้จากหลักการการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้จะได้รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหนมีอะไรดีไม่ดีเกิดขึ้นในอดีตจะได้ช่วยกันแก้ไข

สำหรับการออกข้อสอบต้องเป็นข้อสอบที่เด็กเกิดการเรียนรู้ รู้จักการพัฒนาไม่ใช่เป็นการออกข้อสอบ ที่ยากต้องทำให้การทำข้อสอบของเด็กอ่านแล้วเข้าใจเกิดการเรียนรู้ เกิดประโยชน์ และตัดสินใจได้ถูกต้อง ขณะเดียวกันครูจะต้องเติมทักษะให้แก่นักเรียนรู้เท่าทันภัยโลกออนไลน์ด้วย อย่างไรก็ตามปัญหาปากท้องของครูรัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาให้ และคิดว่าทำไปพอสมควรแล้ว ซึ่งตนได้มอบแนวทางให้กระทรวงศึกษาธิการไปขับเคลื่อน ซึ่งทุกอย่างต้องค่อยๆแก้ไขกันไปที่ละจุด

ด้าน นางอาซีย๊ะห์ แวอุเซ็ง ครูผู้สอนระดับอนุบาล รร.บ้านสะเอะ จ.ยะลา ซึ่งเป็น 1 ที่ได้รับรางวัลครูดีในดวงใจ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นครูในพื้นที่ภาคใต้ ใครๆ ก็มองครูภาคใต้เหนื่อย และเจออุปสรรคมากมายหลายอย่าง แต่อุปสรรคที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เรากล้าที่จะนำพลังออกมา และจะทำหน้าที่ครูให้ดีที่สุด และมีความภาคภูมิใจในอาชีพครู พร้อมฝากถึงครูคนรุ่นใหม่และมีการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมาย แต่สิ่งที่ไม่อยากทิ้งหน้าที่ครู อยากให้ครูทุกคนรักเด็ก มีความเสียสละในหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และตนเองก็พร้อมจะทำหน้าที่ของครูยิ่งใหญ่และจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่