สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ประเทศกัวเตมาลา เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า ตามคำแถลงของทีมงานจากมูลนิธิวิจัยมานุษยวิทยา “ฟาเรส” (FARES) ของกัวเตมาลา ซึ่งกำกับดูแลการศึกษาที่เรียกว่า “ลิดาร์” (LiDAR) เหตุการณ์ล่าสุดเป็นการค้นพบใจกลางอารยธรรมมายาที่มีอายุประมาณ 3,000 ปี และโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง

สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการระบุใหม่ทั้งหมด ถูกสร้างขึ้นหลายศตวรรษก่อนที่นครรัฐมายาขนาดใหญ่ที่สุดจะถือกำเนิด และนำไปสู่ความสำเร็จครั้งสำคัญของมนุษย์ ในด้านคณิตศาสตร์และการเขียน โดยเทคโนโลยีของลิดาร์คือ การใช้เครื่องบินหลายลำยิงคลื่นแสงเข้าไปในป่าทึบ ทำให้ทีมนักวิจัยสามารถมองข้ามพืชพันธุ์ต่าง ๆ และทำแผนที่สิ่งปลูกสร้างโบราณที่อยู่ด้านล่างได้

ตามข้อมูลของรักวิจัย หนึ่งในรายละเอียดที่มีการเปิดเผยในการวิเคราะห์ครั้งล่าสุด คือ ระบบ “ทางหลวง หรือซูเปอร์ไฮเวย์” ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยหิน เป็นแห่งแรกของโลกในยุคโบราณ ซึ่งจากการเปิดเผยในขณะนี้ พบว่าทางหลวงทอดยาวประมาณ 177 กิโลเมตร โดยถนนบางสายกว้างราว 40 เมตร และอยู่สูงจากพื้นถึง 5 เมตร
“มันแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนทางเศรษฐกิจ, การเมือง และสังคมของสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วทั้งพื้นที่นี้” นายริชาร์ด ฮานเซน หัวหน้านักวิจัย กล่าว
ทั้งนี้ การค้นพบครั้งล่าสุดสามารถย้อนกลับไปถึงสมัยที่เรียกว่า ยุคมายาช่วงกลางถึงช่วงปลายยุคก่อนยุคคลาสสิก จากประมาณ 1,000-35 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีการตั้งถิ่นฐานหลายแห่ง ที่เชื่อว่าถูกควบคุมโดยมหานครที่รู้จักกันในชื่อ “เอล มิราดอร์” ในทุกวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลามากกว่า 500 ปี ก่อนที่อารยธรรมจะถึงจุดสูงสุดในยุคคลาสสิก เมื่อศูนย์กลางเมืองใหญ่หลายสิบแห่ง ขยายตัวทั่วเม็กซิโกและอเมริกากลางในปัจจุบัน.
เครดิตภาพ : REUTERS