สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ว่า สื่อท้องถิ่นของอิตาลีรายงานว่า นายมัตเตโอ เมสซินา เดนาโร ผู้นำของ “กอซา นอสตรา” แก๊งมาเฟียทรงอิทธิพลที่สุด ซึ่งหลบหนีการจับกุมของตำรวจมานาน 3 ทศวรรษ ได้รับการฝากขังที่เรือนจำความมั่นคงสูงสุด “กอสตาเรลเล” ในเมืองลากวีลา ทางตอนกลางของประเทศ โดยเมสซินา เดนาโร กล่าวในช่วงหนึ่งระหว่างการลงทะเบียนเป็นนักโทษ ว่าตัวเขา “ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม”

บรรยากาศด้านนอกเรือนจำความมั่นคงสูงสุด “กอสตาเรลเล” ในเมืองลากวีลา ทางตอนกลางของอิตาลี


อนึ่ง เรือนจำกอสตาเรลเล เปิดดำเนินการเมื่อช่วงยุคทศวรรษที่ 1990 และถือเป็นเรือนจำซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยมั่นคงและเข้มงวดสูงสุดในอิตาลี โดยมีการติดตั้งกล้องวีดีดอวงจรปิดไว้ภายในห้องของนักโทษทุกคน ที่เป็นการแยกขังเดี่ยว เพื่อสังเกตการณ์พฤติกรรมตลอด 24 ชั่วโมง


ปัจจุบัน เรือนจำกอสตาเรลเล มีผู้ต้องขังประมาณ 160 คน และทัณฑสถานแห่งนี้เคยเป็นสถานที่คุมขังมาเฟียชื่อกระฉ่อนอย่าง นายรัฟฟาเอเล กูโตโล และนายเลโอลูกา บากาเรลลา


ทั้งนี้ ตำรวจอิตาลีจับกุม เมสซินา เดนาโร ได้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังสืบแกะรอยมานาน ระหว่างเจ้าตัวเดินทางมาพบแพทย์ด้านมะเร็ง ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในเมืองปาแลร์โม หลังหลบหนีการเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายและการรับโทษมานานกว่า 30 ปี โดยศาลมีคำพิพากษาให้ เมสซินา เดนาโร ต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต จากความผิดฐานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารอัยการต่อต้านมาเฟีย คือ นายโจวานนี ฟัลโคเน และนายเปาโล บอร์เซลลิโน เมื่อปี 2535 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญไปทั้งอิตาลีในเวลานั้น

นอกจากนั้น ศาลยังพิพากษาให้ เมสซินา เดนาโร รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานเกี่ยวข้องกับเหตุวางระเบิดที่กรุงโรม เมืองมิลาน และเมืองฟลอเรนซ์ ในอีก 1 ปีต่อมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 10 ราย

อัยการและตำรวจอิตาลีร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายมัตเตโอ เมสซินา เดนาโร ที่เมืองปาแลร์โม เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566


ขณะที่ นายเปาโล กุยโด อัยการเมืองปาแลร์โม ซึ่งเป็นเมืองเอกของเกาะซิซิลี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี แถลงเกี่ยวกับการจับกุมเมสซินา เดนาโร ว่า ความเจ็บป่วย “เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” ซึ่งกดดันให้แม้แต่หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่หลบซ่อนตัวมานานหลายสิบปี “ต้อมยอมปรากฏตัวในที่สุด”.

เครดิตภาพ : REUTERS