จัดเป็นอีกหนึ่งบุคคลในวงการเพลงที่ไม่ว่าจะขยับตัวเคลื่อนไหวไปทางไหนก็ถูกจับตามองเสมอสำหรับ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ล่าสุดก็ไม่วายถูกคนจับผิดว่าถูกสามีนอกใจจนต้องแต่งเพลงเตือนบรรดาเหล่าเมียน้อย แถมใครจะไปรู้ว่าเธอเคยถูกสังคมรุมด่า จนเคยบอกกับตัวเองว่าไม่ควรเกิดมาบนโลกใบนี้ ยังไม่จบ พอมีลูกสาวก็โดนชาวเน็ตแซะแรงบูลลี่หน้าตาลูก งานนี้เลยพาเจ้าตัวมาเคลียร์เปิดใจในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8 พร้อมเปิดหมดเปลือกที่แรกเรื่องเซ็กซ์ก็สำคัญในชีวิตคู่

เจนนี่ เผยว่า “เรื่องหนูอวดรวย อย่างที่ทราบ ชีวิตหนูทั้งชีวิตติดหนี้มาตลอด เกิดมาก็เป็นหนี้เลย เพราะว่าครอบครัวติดลบ แต่ทุกวันนี้ ซื้ออะไรด้วยเงินสดเพราะว่า ไม่รู้ว่าชีวิตพรุ่งนี้จะมีชื่อเสียงไหม จะดังอยู่หรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่า เราไม่ควรเป็นหนี้ แต่ความคิดคน บางคนเป็นหนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องไม่ดี บางคนก็เป็นหนี้ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองทำงาน แต่สำหรับเรา เราไม่อยากกลับไปจุดเดิมแล้ว จุดที่กลับไปลำบาก กลับไปจน เราเลยรู้สึกว่า ถ้าอะไรเป็นเงินสดได้ ก็ควรเป็นเงินสด แล้วทุกคนอย่าคิดว่าการที่เจนนี่ ซื้อบ้าน 30 ล้านคือ เจนนี่รวยนะ การที่เราซื้อบ้าน 30 ล้าน ไม่ใช่ว่าเราจะมีเงินเหลือเยอะมากก็ได้ ให้มองกันลึกๆดีกว่า ออฟฟิศใหม่ใหญ่กว่าตึกอาร์เอสโอ๊ย ไม่เท่าอาร์เอสหรอกค่ะ ครึ่งหนึ่งก็ไม่ถึง แต่รู้สึกว่าใหญ่กว่าเดิมที่เราเคยเป็นมา ด้วยความที่หนูทำค่ายใหม่ๆ หนูเคยโดนด่ามากๆว่า ทำไมเจ้าของค่าย กับน้องสาวถึงสบายกันอยู่แค่ 2 คน ทำไมเด็กในค่ายถึงไม่สบายเหมือนเขา เราก็รู้สึกว่า ถ้าเราแก้ได้ เราก็มีเงินพอสมควร ณ ช่วงนั้น เราก็เลยสร้างตึกที่หรูหราให้เด็กอยู่เลย มีห้องอัด ห้องซ้อมในตัว แบบว่าเดินขึ้นลงก็ทำงานจบได้ครั้งเดียวเลยค่ะ เลยแก้ปัญหาตรงนั้นไป อย่างที่หนูบอกว่าใครคอมเมนต์หนูในทางที่ไม่ดี และหนูเป็นจริงๆ หรือถ้าหนูแก้ได้ หนูจะทำให้เลย แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เราแก้ไม่ได้ หรือเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เราก็ทำได้แค่เงียบค่ะ”

“เรื่องร้องเพลงผัวมีเมียน้อยคือความคิดของหนู อยากให้วงการเพลงใต้สนุกมากขึ้น ส่วนตัวไม่ได้ไปโกรธ หรือน้อยใจคนแต่งที่เขาเชียร์ฝั่งเมียน้อย หรือสนับสนุนอะไรแบบนี้ แต่เรารู้สึกว่าเราเป็นนักแต่งเพลงนะ และเรามีสามี เราควรจะทำอะไรสักอย่างไหมที่เชียร์ฝั่งเมียหลวงบ้าง ก็เลยแบบจัดสักหน่อย มันอินกับอะไรที่เป็นเมียหลวงเมียน้อย และสังคมทุกวันนี้ ข่าวที่เป็นเมียหลวง เมียน้อยมันเยอะมาก เราเลยอยากเป็นตัวแทนฝั่งเมียเดียว หรือเมียหลวง ที่อยากแสดงศักยภาพให้กับฝั่งเมียน้อยดูมากกว่า ว่าจริงๆแล้วการเป็นเมียน้อย มันไม่ถูกต้อง มันสมควรที่จะโนตบสั่งสอนหรือเปล่า เรื่องไม่สนับสนุนให้ผัวมีเมียสองสาม ไม่เด็ดขาดค่ะ มันก็ไม่ได้ทำมาล้างแค้นด้วยเพลงนั้น แต่มันจุดประกายที่ทำให้เราคิดว่า เราต้องแต่งเพลงที่สนับสนุนเมียหลวงบ้าง เพราะว่าเพลงใต้ หนูยังไม่เคยเห็นเพลงแต่งมาเพื่อมาชื่นชม และก็สนับสนุนเมียหลวง และก็ไม่อยากให้เด็กที่ดู หรือติดตามเราอย่างนี้ นำตัวเองไปเป็นเมียน้อยในสังคมอนาคต เพราะเราเองก็มีเด็กติดตามเยอะ”

เจนนี่ เล่าต่อว่า “ชีวิตคู่เนี่ย สิ่งที่ต้องมีเลย 1.ความรัก เรามีให้กัน 2.เซ็กซ์ เรามีเซ็กซ์ที่ดีต่อกันไหม หนูรู้สึกว่าเซ็กซ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของความรู้สึกเช่น ถ้าคนหนึ่งต้องการเท่านี้ แต่อีกคนต้องการเท่านี้ สุดท้ายมันก็ไปด้วยกันไม่รอด หรืออีกคนหนึ่งมีอะไรกับเราแล้วเบื่อ แล้วอยากไปมีอะไรกับคนอื่น มันก็ไม่ตรงกับเราอีก แล้วเรื่องเงิน เรื่องเซ็กซ์ เรื่องครอบครัว เรื่องความรัก มันเป็นสิ่งที่มันต้องปรับและควบคู่กันไปหมด และเรารู้สึกว่ากับผู้ชายคนนี้มันลงตัว เรื่องสามีเนื้อหอม ด้วยความที่พอมีชื่อเสียงมากขึ้นเนอะ เขาก็จะมีบ้างที่ผู้หญิงเข้ามาทักทาย มาอ่อย ก็จะทำให้หนูดึงเข้าเพลงได้อีกว่า ใครที่จะมาเป็นเมียน้อย ระวังจะโดนตบสั่งสอน เชื่อไหม ตอนแรกหนูไม่เคยมั่นใจ และหนูบอกตลอดว่าหนูดีไม่พอ เพราะว่าด้วย ตอนนั้นหน้าที่การงานเขา หน้าตาเขา เรารู้สึกว่าเราด้อยกว่า และเราไม่เคยมั่นใจในตัวเอง จนกระทั่งหนูบอกว่า ตัวเองอย่าเจ้าชู้นะ เขารับไม่ได้หรอก เขาเสียใจแน่ เดี๋ยวคนก็มาด่าเขาอีก เขาบอกว่าไม่ต้องสั่งเขา เพราะไม่มีผู้ชายเจ้าชู้คนไหนบนโลกนี้ เลิกเจ้าชู้ เพราะผู้หญิงสั่ง ถ้าคนนั้นเขาอยากจะเลิกเจ้าชู้ เขาจะเลิกด้วยตัวของเขาเอง เขาก็เลิกของเขาเอง”

“เรื่องกลัวผัวไหม ไม่ได้กลัว แต่ให้เกียรติและเกรงใจในฐานะภรรยาคนหนึ่งมากกว่า คือยิวเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนมายด์เซตหนูเลย มายด์เซตของหนูมันดูแบบว่า ดุดันไม่เกรงใจใครไปหน่อยแม่ ทีนี้พอยิวเข้ามาเขาก็เลยมาบอกว่าข้อเสียเรามีตรงไหนบ้าง ถ้าไม่แก้ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าเขารับไม่ได้ คนต่อไปถ้าคบอีกเขาก็รับไม่ได้อีก ตัวเองก็จะไม่มีคนเป็นคู่ชีวิตกับตัวเองได้ตลอด เขาก็มาบอกเช่นหนูไม่ค่อยฟังใคร ก็จริงนะ เพราะเราประสบความสำเร็จด้วยตัวเอง ก็ค่อนข้างที่จะมั่นหน้านิดนึง แล้วก็แบบทำไมฉันต้องฟังคนอื่น ฉันทำมาแบบนี้แล้วมันสำเร็จ แล้วคุณสำเร็จหรือเปล่าที่มาสั่ง เราก็คิดว่าจริงด้วย ฯลฯ และที่สำคัญเราก็อยากรักษาสามีคนนี้ไว้ เมื่อก่อนหนูเครียดมาก ไม่เคยมีใครเห็นหนูร้องไห้ 7 วันติดๆ ที่หนูไม่มีจิตใจจะกินข้าว มันเป็นปีเบญจเพสค่ะ ปีที่หนู 25 ปี ตอนนี้หนู 27 ปี 2ปีที่แล้วหนูเจอข่าวเรื่องพ่อ ข่าวเรื่องค่าย ข่าวเรื่องไม่ดีต่างๆ หนี้สินของคุณแม่ที่คนมาทวงมั้ง หนูก็แบบกูไม่น่าเกิดมาเลยอ่ะ และหนูรู้สึกว่าออกมาจากตรงนี้ดีกว่า เพราะว่าคงไม่เหมาะกับเราแล้วล่ะ เพราะว่าคนเกลียดเราไปทั้งโลกแล้ว”

“เรื่องลูกโดนบูลลี่ หนูว่าคนที่เขาจะคอมเมนต์ด่าลูกหนูได้เนี่ย จิตใจของเขาต้องไม่ใช่คนปกติ เพราะว่าเด็กที่เขาโตมาด้วยความบริสุทธิ์ เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาไม่ได้มาอยู่ในข่าวกับหนูสักหน่อย คุณทำไมถึงไปให้ร้ายเด็กขนาดนั้น เด็กทุกคนในโลกนี้มีความน่ารักเป็นของตัวเอง พ่อแม่ทุกคนรักลูก คุณทำลายตัวเขา คุณด่าหนูทุกวันนี้หนูชินมาก แต่คุณมาด่าสิ่งที่หนูรัก และมีค่าที่สุด เรายอมตายเพื่อลูกได้ เพราะฉะนั้นเวลาคุณมาด่าลูกเรา มันก็แน่นอนที่หนูจะมีตอบกลับไปบ้าง แต่วิธีการตอบกลับของหนู มันก็ไม่ใช่เหมือนแต่ก่อนแล้วที่โหวกเหวกโวยวายด่าพ่อล่อแม่ แต่ทุกวันนี้ หนูก็มีเหตุผล และใช้วิธีการสั่งสอนเขา เพราะถ้าหนูไม่พูด เขาไม่ได้ทำแค่กับลูกหนู เขาก็จะไปนั่งว่าลูกของศิลปินดาราคนอื่นที่เขารู้สึกว่า คนสาธารณะจะด่าอะไรก็ได้ ไม่ใช่นะ น้องยูจิน เขาเพิ่งคลอดมาเขายังพูดไม่ได้เลย แล้วคุณมีสิทธิอะไรมาตัดสิน เขาน่าเกลียด ดั้งแหมบ เพราะฉะนั้นหนูมองว่าคนที่จิตใจดีเขาไม่ทำกัน ถูกต้องไหมคะ”