เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวย้ำในการประชุมคณะผู้บริหารของกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ขอให้ผู้บริหารเร่งรัดติดตามเรื่องการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง ตามนโยบาย “กรุงเทพฯ ต้องสว่าง” ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในอันดับต้นๆ เนื่องจากเป็นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงเทพมหานครด้วยความอุ่นใจอีกด้วย

ซึ่งปัจจุบัน กรุงเทพมหานครมีไฟฟ้าส่องสว่างที่อยู่ในความดูแลทั้งหมดกว่า 4 แสนดวง ที่ผ่านมาได้มีการสำรวจและรับแจ้งร้องเรียนพบว่ามีไฟฟ้าดับ ชำรุด ต้องซ่อมแซม ประมาณ 2.5 หมื่นดวง สำนักการโยธาได้จัดทำโครงการจ้างเหมาแบ่งเป็น 7 สัญญา ช่วงแรกกำลังจะดำเนินการโดยกำหนด 5,000 ดวงให้เสร็จภายในเดือนเมษายน ส่วนช่วงอื่นๆ คาดจะเริ่มซ่อมได้ตั้งแต่ปลายมีนาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังได้สำรวจเพิ่มเติมจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไข จากจำนวนทั้งหมด 6,440 เส้นทาง

เบื้องต้นที่มีการรายงานเข้ามา 21 เขต พบว่ามีจุดที่หลอดไฟดับ 2,804 ดวง จากที่สำรวจแล้ว 23,350 ดวง ซึ่งในส่วนนี้ดำเนินการแก้ไขโดยใช้เจ้าหน้าที่เขต หรือสำนักการโยธาในบางส่วน บางส่วนจ้างเหมาเอกชน และบางส่วนจะจ้างการฟ้านครหลวงดำเนินการ พร้อมกันนี้ให้เร่งสำรวจส่วนที่เหลือครอบคลุมพื้นที่ และเร่งซ่อมแซมเพื่อเพิ่มแสงสว่างและความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยจะมีการรายงานความคืบหน้าต่อฝ่ายบริหารทุกสัปดาห์

โดยความคืบหน้าในการซ่อมไฟฟ้าแสงสว่างเสาประติกรรม หรือเสาเขียว ตามนโยบาย “กรุงเทพฯ ต้องสว่าง” ในถนน 4 สาย ล่าสุด ถนนสุขุมวิท ซ่อมแล้ว 256 ดวง จาก 410 ดวง, ถนนทองหล่อง ซ่อมแล้ว 170 ดวง จาก 246 ดวง, ถนนเทอดไท ซ่อมแล้ว 478 ดวง จาก 512 ดวง และถนนอินทรพิทักษ์ ซ่อมแล้ว 193 ดวง จาก 233 ดวง ทั้งหมดกำหนดจะแล้วเสร็จภายในเดือนมกราคมนี้.