ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทำผลงานสุดแกร่ง หลังเปิดรัง ลอนดอน สเตเดี้ยม ไล่ถล่ม เลสเตอร์ ซิตี ที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนอย่างงดงาม 4-1 ทำสถิติคว้าชัย 2 เกมรวดพร้อมผงาดยึดบัลลังก์จ่าฝูงแทน เชลซี อริร่วมกรุงลอนดอนเรียบร้อย

ครึ่งแรกเจ้าถิ่นทำเกมรุกได้อย่างวูบวาบ และออกนำก่อน 1-0 จาก ปาโบล ฟอร์นาลส์ นาทีที่ 26 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในการลงรับใช้ต้นสังกัด 3 นัดหลังในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว ส่วน เลสเตอร์ ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนจากการโดนไล่ออกของ อโยเซ เปเรซ ที่ไปเปิดปุ่มยำใส่ ฟอลนาลส์ อย่างน่าเกลียดในนาทีที่ 40

ครึ่งหลัง “ขุนค้อน” ยิ่งเล่นยิ่งดี และมาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ ชากลาร์ โซยุนชู กองหลัง เลสเตอร์ ส่งบอลคืนหลังไม่ดีไปเข้าทาง มิคาอิล อันโตนิโอ ที่จ่ายต่อให้ ซาอิด เบนราห์มา ซัดเข้าไปง่าย ๆ ในนาทีที่ 56 จากนั้น “จิ้งจอกสยาม” เริ่มมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ประตูตีไข่แตก 1-2 จาก ยูริ ตีเลอมันส์ นาทีที่ 69

ทว่าสุดท้าย มิคาอิล อันโตนิโอ ก็ดับฝันของ เดอะ ฟ็อกซ์ส จนสูญสิ้นเมื่อเหมาซัดคนเดียว 2 ตุงในนาทีที่ 80 และ84 ช่วยให้ “ขุนค้อน” ไล่ทุบ เลสเตอร์ ยับเยิน 4-1 และทำให้เจ้าตัวขึ้นแท่นเป็นดาวยิงสูงสุดของ เดอะ แฮมเมอร์ส ในพรีเมียร์ลีก ด้วยผลงาน 49 ประตู เหนือกว่า เปาโล ดิ คานิโอ เจ้าของตำแหน่งคนเดิม ที่ทำผลงานเอาไว้ 47 ประตูอีกต่างหาก

จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ เวสต์แฮม 6 คะแนนเต็มจาก 2 นัดทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ฝั่ง เลสเตอร์ มี 3 แต้มหล่นลงไปอยู่อันดับ 12.

ภาพ AP