ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวด 17 ม.ค.66 ไม่ค่อยคึกคักนัก เนื่องจากงวดนี้สลากฯ ยังราคาแพงต่อเนื่อง อีกทั้งคนมีรายจ่ายเยอะในช่วงปีใหม่และตรุษจีน ทำให้มีกำลังเสี่ยงโชคน้อยลง โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาสลากฯ แพง เนื่องจากงวดนี้เจ้าของโควตาสลากฯ หันมาตั้งแผงขายสลากฯเอง เพราะกลัวว่าจะถูกตัดสิทธิหากขายส่งต่อไปให้ยี่ปั๊ว หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งผลให้ของเหลืออยู่ในตลาดน้อย และราคาขึ้นมาใบ 97 บาท ขายปลีกเริ่มต้น 110-120 บาท ส่วนสลากชุด 5 ใบ ขายส่ง 112-117 บาท ขายปลีกชุดละ 600-700 บาท อย่างไรก็ตามคาดว่า งวดนี้อาจจะขายไม่หมด และต้องยอมเลหลังขายขาดทุนในช่วงวันสุดท้าย

ส่วนเลขที่ได้รับความนิยมในงวดนี้ เป็น 59 เลขมงคล ขายใบเดียว 150 บาท ชุด 5 ใบ ราคาที่ 800-1,000 บาท ส่วนเลขที่ได้รับความนิยมรองลงมา ได้แก่ เลขมงคล 509, 904, 495, 459, 38 , 26, 01, 2528 เลข 18 สุนารี ราชสีมา เลข 53 กูยเซราะกราว เลข 36 เจ๊นุ๊ก บารมีเฮง เลข 549 นกปู่ฤาษีฮ้องให้ เลข 078 ทะเบียนรถไฟไหม้ 11 ศพ ปิดตำนาน 125 ปี สถานีรถไฟดอนเมือง เลข 79 คนไทบ้าน เลข 54 ประมูลกองสลาก เลขปฏิทินจีน 730, 860, 73, 98 เลขธูปเรียงเบอร์ 452 (6 กลับ)

เมื่อจัดลำดับความนิยมของเลขดัง 10 อันดับ พบมีดังนี้ อันดับ 1 เลข 59 อันดับ 2 เลข 18 อันดับ 3 เลข 53 อันดับ 4 เลข 36 อันดับ 5 เลข 49 อันดับ 6 เลข 78 อันดับ 7 เลข 11 อันดับ 8 เลข 79 อันดับ 9 เลข 73 อันดับ 10 เลข 98

สำหรับการออกรางวัลงวดนี้ ออกที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ นนทบุรี วันที่ 1 ก.พ. 66 เริ่มตั้งแต่ 14.30 น. และสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และอินเทอร์เน็ทออนไลน์ได้พร้อมกันทั่วประเทศ

ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ สำนักงานสลากฯ จะมีการประกาศการตัดสิทธิรายชื่อผู้มีสิทธิซื้อจอง และตัวแทนจำหน่ายครั้งแรก ของปี 66 ซึ่งเป็นการตัดสิทธิครั้งใหญ่มีผู้โดนตัดสิทธิมากกว่าหมื่นราย ซึ่งเป็นผลจากการที่ตัวแทนไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยมีการสลากฯ นำไปขายช่วงต่อ ทำให้เกิดการค้ากำไร และขายเกินราคา โดยเมื่อประกาศเสร็จแล้วจะมีผลตัดสิทธิงวดต่อไปทันที

“การตัดสิทธิรอบนี้ มาจากการตรวจสอบสลากฯ ที่มีการนำมาขึ้นลอตเตอรี่ทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นน่าจะมีไม่ต่ำกว่าหมื่นราย โดยจะมีทั้งในส่วนผู้ซื้อจองรายย่อย รวมถึงตัวแทนจำหน่ายโควตาทั้งบุคคลและนิติบุคคล ซึ่งหากใครทำผิดก็ต้องมีการลงโทษ ตัดสิทธิในมาตรฐานเดียวกัน”

พ.ท.หนุน กล่าวว่า ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการตัดสิทธิกี่ราย หรือจะได้ลอตเตอรี่กลับคืนมากี่เล่ม แต่ยกตัวอย่าง หากตัดไปหมื่นราย ได้สิทธิคนละ 5 เล่ม ก็จะมีสลากฯ ได้กลับเข้ามา 5 ล้านใบเป็นอย่างน้อย ซึ่งจะพิจารณาว่าจะเติบเข้ามาในสลากดิจิทัล หรือให้การซื้อจองต่อไป ขณะที่การตรวจสอบคนที่นำสลากฯ ไปขายต่อให้กับกองสลากพลัส จำนวน 11 ล้านใบนั้น ก็กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และหากทราบผลก็จะมีการตัดสิทธิเพิ่มเติมอย่างแน่นอน

“ในปีนี้สำนักงานสลากฯ จะมีดำเนินการตรวจสอบ ตัดสิทธิอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำสลากฯ ไปขายช่วงต่อ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้สลากฯ มีราคาแพง จึงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสิทธิทำการขายสลากฯ เอง ตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนสลากดิจิทัล ก็ยังตั้งเป้าหมายจะเพิ่มต่อเนื่องตลอดปีนี้ให้ถึง 30 ล้านใบ”