สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา ต่อเป้าหมายหลายแห่งซึ่งเชื่อว่า มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาส โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังระบบป้องกันไอเอิร์น โดม ของไอดีเอฟ สามารถสกัดการโจมตีของจรวดหลายลูก ซึ่งมีการยิงข้ามเขตแดนออกมาจากฉนวนกาซา


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประกาศการตอบโต้แบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” และ “ในระดับสูงสุด” ต่อเหตุรุนแรงระลอกใหม่ ที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลในนครศักดิ์สิทธิ์ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือการกราดยิง ที่สุเหร่ายิวในเขตชานเมืองเยรูซาเลม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย


อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิสราเอล ปฏิบัติการที่ค่ายผู้ลี้ภัยของชาวปาเลสไตน์ ในเมืองเจนินของเขตเวสต์แบงก์ และวิสามัญ “ผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย” อย่างน้อย 10 ราย


จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมาแสดงตัวว่า มีความเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงที่สุเหร่ายิวหรือไม่ แต่กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ว่า เหตุกราดยิงที่สุเหร่ายิวในเมืองเยรูซาเลม “คือการตอบสนองต่ออาชญากรรมที่อิสราเอลก่อขึ้น ในเมืองเจนิน ของเขตเวสต์แบงก์” อนึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต “มากกว่า 30 ราย” รวมทั้งพลเรือนและสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ


ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวระหว่างเยือนอิสราเอลและเขตเวสต์แบงก์ ในสัปดาห์นี้ ว่า สถานการณ์รุนแรงระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองเยรูซาเลมและเขตเวสต์แบงก์ “เป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่ายที่ต้องร่วมกันดับไฟ” รัฐบาลวอชิงตันขอประณามเหตุรุนแรงทั้งหมดในระดับสูงสุด พร้อมทั้งขอให้ทุกภาคส่วนถอยห่างจากการใช้กำลังตอบโต้กัน.

เครดิตภาพ : REUTERS