โอลิเวีย แอทโคไซทิส สาวน้อยวัย 19 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายจีน ยื่นฟ้องต่อศาลสูงประจำเขตเมอร์ริแมค เคาน์ตี รัฐนิวแฮมป์เชียร์ โดยระบุชื่อจำเลยหลายราย นอกเหนือจากพ่อแม่บุญธรรมของเธอเอง ซึ่งมีทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนประจำเขต, ระบบพิทักษ์ผู้เยาว์, หน่วยตำรวจบอสตัน, ตัวแทนผู้ดำเนินการอุปถัมภ์บุตรบุญธรรมแห่งแมสซาชูเซตต์ โดยเธอกล่าวหาว่า กลุ่มคนเหล่านี้ละเลยหรือเมินเฉยการร้องเรียนของเธอ เนื่องจากเธอเป็นเพียงผู้เยาว์

เมื่อตอนอายุได้ 14 เดือน ครอบครัวของโธมัส และเดนิส แอทโคไซทิส ก็ขอรับ โอลิเวีย ไปเป็นบุตรบุญธรรมในปี 2547 เธออ้างว่า โดนทำร้ายร่างกายและบังคับขู่เข็ญตั้งแต่ 3 ขวบ โดยพ่อแม่บุญธรรมของเธอใช้สายจูงสุนัขผูกเธอไว้กับเสาโลหะ พวกเขาสร้างห้องเล็กๆ ขนาด 8×8 ฟุต ไว้ที่ชั้นใต้ถุนของบ้าน เพื่อให้เป็นที่อยู่ของเธอ ซึ่งเธอเรียกว่า “คุกใต้ดิน”

ห้อง “คุกใต้ดิน” ของโอลิเวีย

โอลิเวีย ยังให้ข้อมูลว่า เธอโดนกักขังไว้ในบ้านเป็นเวลานานหลายปีในระหว่างที่เติบโตขึ้นมา 

สองสามีภรรยาสกุลแอทโคไซทิส มีลูกแท้ ๆ 3 คน บ้านของพวกเขามี 4 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 4,300 ตารางฟุต ในย่านนิวบอสตัน ตัวบ้านตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 27 เอเคอร์ (ประมาณ 68 ไร่) ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ป่าของรัฐ

ห้อง “คุกใต้ดิน” ของโอลิเวีย มีเพียงหน้าต่างบานเดียว ซึ่งมีลวดกรงไก่กั้นไว้ เธอใช้ถังน้ำต่างชักโครก เด็กสาวจะถูกปล่อยตัวออกจากห้องก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่เธอต้องทำงานบ้านและดูแลสัตว์ในฟาร์ม รวมทั้งทำหน้าที่นวดให้แม่บุญธรรม

โธมัส และเดนิส พ่อแม่บุญธรรมของโอลิเวีย

ในสำนวนยื่นฟ้องระบุว่า โอลิเวีย พยายามหลบหนีออกจากบ้านหลายครั้งเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่มักจะจับตัวเธอส่งคืนมายังครอบครัวแอทโคไซทิส โดยเธอเล่าครั้งล่าสุดนั้น ตำรวจถึงกับใช้สุนัขตำรวจเพื่อแกะรอยเธอและนำตัวเธอมาส่งคืนพ่อแม่บุญธรรม

โอลิเวีย เคยได้เข้าโรงเรียนเพียงครั้งเดียว ในปี 2554 พี่น้องคนหนึ่งของเธอรายงานต่อที่ปรึกษาในโรงเรียนว่า โอลิเวีย ซึ่งมีอายุเพียง 8 ขวบในตอนนั้น โดยเฆี่ยนตี ผลักตกบันได้และไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเพียงพอ

ทางโรงเรียนได้แจ้งไปยังหน่วยตำรวจนิวบอสตัน และแผนกพิทักษ์เด็กและเยาวชนของนิวแฮมป์เชียร์ แต่ตำรวจก็ทำเพียงถ่ายภาพห้องของโอลิเวียไว้ ขณะที่แผนกพิทักษ์เด็กฯ พาตัวพี่น้องคนที่รายงานเรื่องทำร้ายเธอออกจากบ้าน แต่ทิ้งโอลิเวียไว้ ซึ่งทำให้เธอต้องทนรับการทำร้ายร่างกายต่อมาอีกหลายปี จนกระทั่งเธอสามารถหนีรอดออกมาเองได้ในปี 2561 

โธมัส และ เดนิส พ่อแม่บุญธรรมของเธอโดนจับกุม เดนิสยอมรับสารภาพผิดในข้อหาประพฤติผิดและทำให้เด็กในความดูแลตกอยู่ในอันตราย ขณะที่ โธมัส ซึ่งยอมรับผิดในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวซึ่งเป็นข้อหาอาชญากรรม เขารับโทษจำคุก 6 เดือน

ส่วนองค์กรการกุศลไวด์ ฮอไรซัน ซึ่งเป็นตัวแทนดำเนินการรับอุปการะบุตรบุญธรรมของโอลิเวียนั้น ในระหว่างการสืบสวนพบว่า ทางองค์กรรับรู้ว่าลูกคนหนึ่งของครอบครัวแอทโคไซทิส เคยโดนผู้เป็นพ่อใช้เข็มขัดเฆี่ยน จึงได้แจ้งไปทางศูนย์พิทักษ์เด็กฯ แต่ฝ่ายหลังไม่เคยเปิดการสืบสวนใด ๆ 

องค์กรไวด์ ฮอไรซัน เข้าไปตรวจสอบบ้านที่โอลิเวียพักอยู่เป็นครั้งสุดท้ายในปี 2548 และสรุปว่าทั้ง โธมัส และเดนิส เป็น “พ่อแม่ที่ทุ่มเทให้ลูก ๆ ด้วยความรัก” 

ไมเคิล ลูอิส ทนายความตัวแทนของ โอลิเวีย กล่าวหาว่า หน่วยงานราชการ “ยินยอมให้มีการใช้แรงงานทาสในขอบเขตอำนาจทางกฎหมายของตน” และชี้ว่า ชีวิตของเด็กสาวคือฝันร้าย คนที่สมควรปกป้องเธอกลับทำตรงข้าม 

ในสำนวนฟ้องยังระบุว่า โอลิเวีย โดนปฏิเสธเมื่อเธอต้องการใช้สิทธิที่จะยุติความเป็นทาสและการใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญของบุคคลอื่น ขณะที่ ลูอิส กล่าวว่า เธอเป็นเด็กสาวที่กล้าหาญอย่างยิ่งที่ตัดสินใจดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลเหล่านี้

แหล่งข่าว : nextshark.com

เครดิตภาพ : unionleader.com