เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรเครือข่ายภายนอกพรรค พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติการประชุมกรรมการบริหารพรรคที่เสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงหนึ่งเดียวของพรรคว่า นายจุรินทร์ ได้พิสูจน์ตัวตนบนเส้นทางการเมืองมาตลอดชีวิต ทั้งในระดับประเทศและสากล จนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกผ่านผลงานที่มั่นคงยาวนาน โดยเฉพาะความสำเร็จในด้านเศรษฐกิจหลากหลายมิติ ในการเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก ผ่านเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค ที่ผ่านมา อีกทั้งนโยบายประกันรายได้ที่สร้างความมั่นคงมั่งคั่งให้เกษตรกรไทยอย่างเป็นประวัติการโดยการผลักดันงบประมาณถึงมือพี่น้องเกษตรไทยโดยตรง ทำให้วงการนักธุรกิจทุกระดับจนถึงพี่น้องเกษตรกรไทยเชื่อมั่นว่านายจุรินทร์ จะก้าวสู่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในการนำพาประชาชนและประเทศของเราสู่ความเจริญมั่นคงสถาพร ในระบอบรัฐสภาที่เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป

ด้าน พล.ต.ต.ดร.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นในตัวของนายจุรินทร์ ว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพครบถ้วนในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หนึ่งเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีประสบการณ์ทางด้านการเมืองที่สั่งสมมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ประสบการณ์ด้านการบริหารกระทรวงต่าง ๆ หลายกระทรวง และที่สำคัญคือปัจจุบันในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์มีความโดดเด่น ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและในเวทีสากลระดับโลก ล่าสุดจากการที่นายจุรินทร์ไปเยือนกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อเจรจาการค้าแบบทวิภาคี (FTA) กับ H.E. Mr. Valdis Dombrovskis (นายวัลดิส โดมโบรฟสกิส) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปด้านเศรษฐกิจและกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า หรือรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของสหภาพยุโรป ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ถือเป็นประวัติศาสตร์และจุดเริ่มต้นที่ดีที่เกิดการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปขึ้น
“ภายหลังสถานการณ์โควิดระบาดส่งผลกระทบทั่วโลก แต่ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ อีกทั้งมีการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้นายจุรินทร์ ได้ฉายภาพให้เห็นว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น มีศักยภาพสูง กล้าตัดสินใจ ทั้งในเรื่องการผลักดันด้านการส่งออกที่มีตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งการเจรจาทางการค้าก็สามารถเปิด FTA ให้กับประเทศช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันการไปเยือนประเทศต่าง ๆ ของนายจุรินทร์ เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับสากล ซึ่งเหล่านี้คือคุณสมบัติของผู้นำประเทศในยุคนี้ที่จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกด้านทั้งการเป็นนักการบริหาร นักการค้า ซึ่งจะพาประเทศก้าวข้ามวิกฤติด้านเศรษฐกิจไปได้ และที่สำคัญเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ผมจึงเชื่อมั่นว่านายจุรินทร์มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” พล.ต.ต.ดร.วิชัย กล่าว