นายสวภพ ท้วมแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซอร์ทเอาท์ จำกัด แพลตฟอร์มบริหารจัดการออร์เดอร์และสต๊อกครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 66 นี้ ชอร์ต วิดีโอ คอมเมิร์ซ ก็จะเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากกเสนอชายสินค้าจะเปลี่ยนไปในรูปแบบวิดีโอมากขึ้น เพราะปัจจุบันโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะ ติ๊กต็อก ช็อป ที่ชูจุดเด่นที่มี ชอร์ต วิดีโอ คอมเมิร์ซ และ ไลฟ์ คอมเมิร์ซ เพื่อบริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รวมถึงการเปิดร้านค้า ฯลฯ ส่งผลให้แพลตฟอร์มฟอร์มอื่นๆ ได้เริ่มพัฒนาฟีเจอร์ชอร์ต วิดีโอ มาแข่งขันในตลาด ทั้งในส่วนของ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม  ยูทูบ และไลน์ ส่งผลให้มีการพัฒนาและสร้างคอนเทนต์ ชอร์ต วิดีโอ มากยิ่งขึ้น

“ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีความสนใจการดูสื่อแบบเคลื่อนไหวในปัจจุบัน ทำให้กลยุทธ์การเปลี่ยนคอนเทนต์ เป็นยอดขาย หรือชอปเปอร์เทนเมนต์ ที่ได้นำการชอปปิงเมาผสมผสานข้ากับความบันเทิง อย่างการโปรโมตสินค้า ผ่านคลิปที่กระชับ น่าสนใจ จะช่วยเพิ่มยอดขายและกระตุ้นการซื้อของลูกค้าได้ ทำให้เทรดการนำเสนอขายสินค้าผ่านวิดีโอสั้น จะเป็นเทรนด์ที่มาและเป็นที่นิยมในปีนี้”

นายสวภพ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันไทยเป็นประเทศที่มีสัดส่วนซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซติดท็อป 3 ของโลก เป็นรองแค่จีนและอินเดีย และเชื่อว่าปีนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะยังคงเติบโตได้ดี จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปิดรับการซื้อ สินค้าออนไลน์ มีการแข่งขันจัดโปรโมชั่นของแบรนด์สินค้าและแพลตฟอร์มต่างๆ โดยคาดการณ์ว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซ จะมีมูลค่ารวมประมาณ 6.6 แสนล้านบาท เติบโตประมาณ 15-20% จากปี 65 สำหรับในส่วนของบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโต 100% จากปี 65 ที่ผ่านมา ที่เติบโตเพิ่มขึ้น 50% ผ่านอีคอมเมิร์ซทุกแพลตฟอร์ม ที่มีการเชื่อมต่อในระบบซอร์ท เป็นมูลค่า 49,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยที่น่ากังวล สำหรับร้านค้าต่างๆ คือ แนวโน้มการเพิ่มค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์ม อีมาร์เกต เพลส และการฟื้นตัวของตลาดออฟไลน์ และกลยุทธ์ออมนิชาแนล ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลังจากการประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาซื้อสินค้าตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ มากขึ้น