เมื่อวันที่ 16 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายในสภาฯ ถึงเรื่องทุนจีนสีเทา ที่ย้ายฐานเข้ามาเพื่อประกอบวิชาชีพในประเทศไทย ทุนจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยคือ นายตู้ห่าว ทั้งนี้ คดีของนายตู้ห่าว ตลอดเวลาเตะถ่วง ประวิงเวลาและหวังว่าจะรอให้กระแสซาลง ทุบทำลายพยานหลักฐาน จนอาจเปลี่ยนจากชนะเป็นแพ้ หรือหากเกิดก็ให้คดีอ่อนที่สุด และไม่ต้องสงสัยว่าต่อจากนี้จนถึงวันพิพากษา กระบวนการล้มคดีที่มีคนของภาครัฐร่วมสมคบคิดจะทยอยมาอย่างไม่มีหยุด ซึ่งคนที่ใครต่อใครจะช่วยล้มคดีให้เกิดขึ้นได้ก็มีแต่คนมีเส้นเท่านั้น

ตนจึงต้องถามหาความรับผิดชอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้บัญชาการตำรวจมาก่อน เพราะท่านหรือผู้ที่บุกไปค้นผับจินหลิงตั้งแต่แรก รวมไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ควรจะเร่งรัดคดีดังกล่าว เพื่อให้สังคมเกิดความเชื่อมั่น แต่กลับเช้าชามเย็นชามตัดช่องน้อยรอวันตัวเองเกษียณ แต่ผู้ที่กำกับควบคุม คือนายกฯ ท่านเห็นข่าวคดีนี้มาเป็นเดือนๆ ท่านควรจริงจังกับการปราบปรามธุรกิจจีนเทา กลับปล่อยให้มีการทำลายอะไรพยานหลักฐาน หรือเพราะคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลานท่าน จึงมีการตั้งข้อสังเกตกันว่าไม่หลาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ฟอกเงินให้ตู้ห่าว หรือตู้ห่าวฟอกเงินให้หลาน พล.อ.ประยุทธ์ และคดีนี้เชื่อมโยงพบเส้นทางการเงินที่เป็นธุรกิจใหญ่ อย่างน้อยที่สุด หลานของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องถูกเรียกมาสอบสวน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาสอบสวนแล้ว แต่มาแบบเงียบๆ ฉะนั้นจะทำให้วางใจได้อย่างไร เราจะไม่มีลูกเล่นว่าคดีนี้ จะไม่ทำให้หนีรอดไปอีก

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นจะมั่นใจได้อย่างไรว่าบ้าน พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีเรื่องเยอะเหลือเกิน จะไม่มีมือวิเศษมาคอยปัดคดี ให้ค้านสายตาคน และจะเชื่อได้อย่างไรว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี นอกจากนี้ นายตู้ห่าว ยังสนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ด้วย และเลี้ยงจีนเทาไว้อีกหลายคน ทั้งนายจาง เจียน ฟู, นายเกา ฉี, นายเฉิน เฟิง เชา ซึ่งทั้ง 3 คน อยู่ที่เดียวกันหมด และจดทะเบียนอยู่ที่ 888 อโศก ดินแดง โดยเป็นสถานที่ตั้งบริษัทรักษาความปลอดภัย และภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ทั้งนี้ ตนได้ยินมาว่านายจาง เจียน ฟู เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงประชาชนทั้งคนไทยและคนจีน ตนจึงอยากรู้ว่าเงินเข้ากระเป๋าใคร เข้ากระเป๋า ร.อ.ธรรมนัส หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้นายกฯ ก็รับทราบ แต่กลับไม่สอบสวนให้มาถึง ร.อ.ธรรมนัส

นายหลิน หลง คู่ซี้ของตู้ห่าว ยังมีความสนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพราะได้มีการถ่ายรูปกันที่บ้านป่ารอยต่อฯ อีกด้วย แต่ตอนนี้นายหลิน ปัจจุบันได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีนายเซา เซียนโป นายทุนจีนอีกคนที่มีหมายจับอยู่ที่ จ.ปัตตานี และจับได้เมื่อเดือนก่อน ที่มีการปลอมบัตรประชาชนและเอกสารราชการ

จนมาถึงช่วงหนึ่ง นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้ขอประท้วงเพราะการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายตามญัตติมาตรา 152 และไม่เข้าใจว่า ร.อ.ธรรมนัส ไปเกี่ยวข้องอะไรกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะการอภิปรายดังกล่าวเป็นซักถามและแนะนำการบริหารงานของรัฐบาล

จากนั้นนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวขอให้นายรังสิมันต์ อภิปรายอยู่ในกรอบ ไม่โยงไปถึงคนอื่น เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลแล้ว

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ยังกล่าวว่า ย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน พล.อ.ประยุทธ์ เคยแถลงนโยบายปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเด็ดขาด แต่กลับพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการ สืบสวนนครบาลจับกลุ่มกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด 3-4 กลุ่ม เป็นกลุ่มที่ไปรับซื้อยาบ้าจากประเทศเมียนมาเอามาขายต่อ โดยวิธีการจ่ายค้ายาให้กับผู้ผลิต ไม่ได้มีการโอนให้กันตรงๆ แต่จะใช้บัญชีม้า ถูกจ้างให้เปิดขึ้นมาโดยมีผู้ควบคุมบัญชีที่แท้จริงเป็นบุคคนอื่นอยู่นอกประเทศ โดยเงินที่เข้าบัญชีม้านั้น ก็พบว่าถูกเอาไปฝากหรือโอนต่อเข้าบัญชีของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยทุรกรรมทำ 3 บริษัท

ทั้งนี้ มีตัวละครหนึ่งปรากฏขึ้นมาพบว่า นายทุน มิน ลัต ชายชาวเมียนมา ที่ถูกจับมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจมายาวนานกับชายชาวไทยคนหนึ่ง กับนาย อ. หรือ อ.ทรงเอ ได้ถือหุ้นบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป และก่อตั้งบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป ที่พัวพันกับคดีฟอกเงิน นอกจากนี้ นาย อ. มีศักดิ์เป็นพ่อตาของนายดี ที่ถูกจับไปรอบเดียวกับนายทุน มิน ลัต ที่สำคัญที่สุดนาย อ. ได้รับการคัดสรรเข้ามาเป็น ส.ว. เพราะมีความรู้และมีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน พอมีข่าวนายทุน มิน ลัต ถูกจับ ส.ว. อ. ก็ออกมาปฏิเสธว่าก็รู้จักกันอยู่ และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน หันไปสนใจพระพุทธศาสนา ไม่ได้ไปชายแดนมานานแล้ว และทั้งสองบริษัทก็ลาออกไปแล้วก่อนเข้ารับตำแหน่ง ส.ว. 

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส.ว. อ. ให้เลขาฯ จดจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ชื่อ “อัลลัวร์พีแอนด์อี” นาง ป. ก่อนหน้านี้ที่โดนจากเคยให้การกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และออกมายอมรับว่าที่ไปถือหุ้นบริษัทดังกล่าวเป็นการให้นำชื่อไปใช้เฉยๆ และเป็นเพียงแค่นอมินี ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่ฟอกเงินผ่านการซื้อขายไฟฟ้ามี นายทุน มิน ลัต ถือหุ้นใหญ่ นาง ป. ถือหุ้นเปนนอมมินีให้ ส.ว. อ. ส่วนกรรมการอีกคนขอให้เป็นภรรยา คือ น.ส. น. ที่ถูกจับไปด้วย นายกฯ เลือก ส.ว. มากับมือ รู้หรือไม่ว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น และมีการโอนค่าใช้จ่ายไปให้จากรายได้ค่าไฟฟ้า โดยมีการทำแบบนี้ทุกเดือน

“วันนี้นาง ป. โดนจับมีโทษร้ายแรง คือ ประหารชีวิตทำตามคำสั่งของเจ้านายที่ลอยตัว และนายพันณรงค์ เจ้าพ่อพนันออนไลน์รายใหญ่ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่คนปัจจุบันของบริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป ที่ได้มาจากนายดี ลูกเขยของ ส.ว. อ. ซึ่งมีการทำสัญญาซื้อขายให้ โดยมี ส.ว. อ. เซ็นเป็นพยานให้ และมีการพูดคุยการ ซึ่งภาพพยานหลักฐานที่ผมนำมาแสดงให้เห็นว่า ส.ว. อ.ไม่ได้วางมือจากธุรกิจ แต่ยังคงอยู่เบื้องหลังทุกคนในธุรกิจฟอกเงินค้ายาเสพติด และนายกฯ ไม่รู้ว่า ส.ว.ทำอะไรอยู่ ในเมื่อหลักฐานชัดเจน แต่ตำรวจได้ออกหมายจับส.ว.คนดังกล่าวแล้ว และศาลได้อนุมัติหมายจับแล้ว แต่ในช่วงบ่ายกลับมีการถอนใหม่หมายจับ หลังจากที่ได้มีการออกหมายจับไปช่วงเช้า โดยให้เหตุผลว่าผู้ถูกหมายจับเป็นบุคคลสำคัญ จึงขอให้เพิกถอนหมายจับและหมายเรียก เพราะเชื่อว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี เรื่องนี้ผมจะทำหนังสือให้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวด้วย”

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนยังตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมนายกฯ จึงยังอุ้ม ส.ว. คนดังกล่าว เพราะ ส.ว. คนดังกล่าวถือหุ้นใหญ่บริษัท ยูไนเต็ดเพาวเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) แต่เจ้าตัวออกมาอ้างว่าได้ลาออกแล้ว และขายหุ้นไปหมดแล้ว เพราะบริษัทดังกล่าวเกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงหนึ่งในซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ที่บริษัทดังกล่าวได้สร้างตึกขึ้นมาหลังหนึ่ง ปัจจุบันนี้ตึกดังกล่าวสร้างเสร็จแล้วและเป็นที่ทำการของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จึงขอให้นายกฯ ชี้แจงเรื่องนี้ด้วยว่า ราคาค่าเช่าเท่าไหร่ หรือให้ยืมกันฟรีๆ ยืมพรรค ยืมที่ดินกัน ซึ่งนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการฟอกเงิน ตนไม่อยากจะจินตนาการว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ต่อ จะตอบแทนให้กับคนแบบนี้อย่างไร เพราะยังช่วยปกป้องคนแบบนี้ เพราะหวังผลประโยชน์ตอบแทนจากผลประโยชน์ธุรกิจมืดหรือไม่ จึงไม่กล้าทิ้งท่อน้ำเลี้ยงนี้.