เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เป็นประธานการประชุม ก.อ. ครั้งที่ 8/2564โดยมีวาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการตั้งแต่ระดับรองระดับรองอัยการสูงสุด จำนวน 6 ราย, ผู้ตรวจการอัยการ 9 ราย, อธิบดีอัยการ 75 ราย, รองอธิบดีอัยการ 104 ราย, อัยการพิเศษฝ่าย 152 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 6 จำนวน 98 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 5 จำนวน 109 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 4 จำนวน 117 ราย, ข้าราชการอัยการชั้น 3 จำนวน 120 ราย, อัยการอาวุโส 21 ราย และอัยการอาวุโส (ตั้งใหม่) 106 ราย รวม 11 บัญชี 917 ราย ซึ่งมีการพิจารณาเสร็จในช่วงบ่าย

โดยมีอัยการชื่อดังที่ได้ขยับมีรายชื่อน่าสนใจดังนี้

นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุดลำดับอาวุโสที่ 7 ไปเป็นรองอัยการสูงสุดลำดับที่ 1

สำหรับนายชาติพงษ์ขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริตฯ มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส s นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาท ระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ, คดีทุจริต สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกายคดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริตที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเเละนักการเมืองนักธุรกิจนายธนาคารตกเป็นจำเลย เเละยังมีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน พัวพันถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร, รวมถึงคดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านโดยก่อนขึ้นรอง อสส.ได้เข้ามาคุมคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อนถือเป็นอัยการมีฝีมือ ประสบการณ์มาก ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนเที่ยงตรงการเป็นรอง อสส.เบอร์ 1 ทำให้ได้เป็น ก.อ.โดยตำเเหน่งอัตโนมัติ

นายบัณฑูร ทองตัน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 8 อดีตอัยการมือว่าความคดีทวงคืนหาดเลพัง มูลค่านับหมื่นล้านคืนจากกลุ่มนายทุนไปเป็นอธิบดีอัยการภาค 8

นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการปกครองเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกจากตั้งให้เป็น ก.อ. ประเภท ข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยคะเเนนสูงสุด ไปเป็นอธิบดีอัยการภาค 7

นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อธิบดีอัยการ สำนักงานการยุติการดำเนินคดีแพ่งและอนุญาโตตุลาการ มีผลงานในการพัฒนาปรับระบบการทำงานเพิ่มคุณภาพการดำเนินคดีอนุญาโตตุลาการอำนวยความสะดวกในงานคดีต่าง ๆ ซึ่งในระดับอธิบดีถือว่า นายไพรัชมีคิวอาวุโสลำดับต้นๆ ที่เตรียมจะถึงรองอัยการสูงสุดในลำดับปีต่อไป

ทั้งในอดีตเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุดสมัยนายชัยเกษม นิติสิริ ไปเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง ซึ่งมีขอบเขตอำนาจพิจารณาสั่งคดีเเขวงทั้งหมดในพื้นที่กรุงเทพฯ

นายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองภูเก็ต ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญในจังหวัดใหญ่ภาคใต้เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีข้อพิพาทกับนายทุนเป็นเป็นคดีใหญ่เกี่ยวกับโรงเเรมบุกรุกป่าสงวน ซึ่งสำนักงานดังกล่าวจะมีบทบาทในการพิทักษ์ที่ของรัฐเป็นพวกที่ดินผืนป่าเเละชายทะเล จากนายทุน

โดยนายศักดา ปัจจุบันเป็นเลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภา หรือครูใหญ่เนฯ รวมถึงยังได้รับการเลือกตั้งเป็น ก.อ. เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ดีกรีนักเรียนนอกจบ ป.โทด้านกฎหมายจาก ฮาร์วาร์ด เเละ ป.โท จาก มหาวิทยาลัยดีคิ่น รุ่น 28 ไปเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาตลิ่งชัน

นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ ไปเป็นอธิบดีอัยการคดีอาญาซึ่งนายอิทธิพร ถือเป็นลูกหม้อของสำนักงานคดีอาญามาอย่างยาวนาน และเป็นมือแก้ต่างคดีอาญาให้กับข้าราชการทั่วประเทศที่ถูกฟ้องเพราะปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงได้ในส่วนความเหมาะสม เเละประสบการณ์การทำงานที่จะคุมสำนักงานคดีอาญาซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญเเบ่งเป็น 12 กองงานที่จะมีคดีใหญ่สำคัญเข้าในพื้นที่สำคัญจาก สน.ต่างๆ ในพื้นที่หลัก รวมถึงรับคดีจากกองปราบปรามเข้ามาพิจารณาสั่งคดีนอกจากนี้นายอิทธิพรมีคิวที่จะขึ้นถึงอัยการสูงสุดในอนาคตด้วย

นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ได้ขยับขึ้นเป็นอธิบดีอัยการสำนักงาน ก.อ.ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญมีบทบาทดูแลทำบัญชี เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั่วประเทศ สำหรับนายธรัมพ์ ที่ได้ขยับขึ้นในสำนักงานเดิมเเปลว่า ได้รับความเชื่อใจจากผู้บริหารที่จะจัดบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายอัยการด้วยความเป็นธรรมเเละเหมาะสม นอกจากนี้ยังเคยเป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมาก่อนนี้ด้วย

นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เเละรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อัยการเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพระโขนง

นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของสำนวนคดี กปปส. ที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษเเกนนำหลายคนขึ้นเป็น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจ

ในส่วนระดับอธิบดีอัยการสำนักงานสำคัญก็ยังมี น.ส.นารี ตันฑเสถียร อธิบดีอัยการสำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย และนายพรชัย ชลวาณิชกุล อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็น ก.อ.ทั้งคู่ยังอยู่ในตำเเหน่งเดิม จึงไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีเเต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ โดย น.ส.นารีมีคิวที่จะขึ้นเป็น อสส.หญิงคนเเรกของประเทศ โดยคิวต่อจากนายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อสส.คนต่อไป หาก ก.อ.ผ่าน

ระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ

มีนายโกศลวัฒน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9 ไปเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลเเขวง

สำหรับนายโกศลวัฒน์ เคยดำรงตำเเหน่งผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด บทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์ ถือเป็นรองโฆษกอัยการฯ ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง” เคยออกหน้าประสานงานด้านกฎหมายช่วยเหลือน้องปาล์ม เด็กที่โดนรถของกระทรวงสาธารณสุขชนจนพิการตลอดชีวิต ซึ่งภายหลังชนะคดีได้รับค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล เมื่อตอนโดนย้ายไปเป็นรองอธิบดีภาค 9 ก็ได้รับเเต่งตั้งให้เป็นโฆษกอัยการปราบปรามทุจริตภาค 9 เเถลงผลงานการดำเนินคดีทุจริตฯในภาค พร้อมให้ความรู้กฎหมายประชาชนเเละข้าราชการเกี่ยวกับคดีทุจริตฯ เพื่อเป็นเเนวทางในการปฏิบัติไม่ให้ต้องคดี ซึ่งได้รับการตอบรับชื่นชม

นายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 ขึ้นเป็นรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำหรับนายประยุทธ มีบทบาทเป็นที่รู้จักในฐานะรองโฆษกอัยการฯ โดยนั่งตำเเหน่งในทีมโฆษกมายาวนานถึง 3 สมัย 6 ปีซ้อน รับหน้าที่เเถลงคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเเละคดีใหญ่สะเทือนขวัญสำคัญหลายคดี จากที่เข้ามาดูคดีพิเศษ เเละเติบโตเป็นระดับรองอธิบดีที่สำนักงานนี้เเสดงว่าได้รับไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริหาร เพราะสำนักงานคดีพิเศษเป็นสำนักงานที่รับพิจารณาสำนวนคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือปปง.ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม็อบการเมืองต่างๆสำนักงานดังกล่าวจึงมีบทบาทสำคัญ นายประยุทธ จบหลักสูตร วปอ. รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เคยดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดหลายจังหวัด เช่น อัยการจังหวัดสมุทรปราการ อัยการจังหวัดสระบุรี อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงอุบลราชธานี จากนั้นขยับดำรงตำแหน่งอัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการอยู่ 4 ปี ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษฝ่ายสำนักยุทธศาสตร์และงบประมาณ รับผิดชอบการบริหารจัดการด้านอาคารและที่ดินของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้รับแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ของกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานพัฒนากฎหมายและอนุกรรมการพัฒนากฎหมายของหน่วยราชการอีกหลายคณะ

นายธีรวัฒน์ พุฒิบูรณวัฒน์ เลขานุการอัยการสูงสุด ไปนั่งรองอธิบดีเเรงงานภาค 2 สำหรับนายธีรวัฒน์ เป็นพนักงานอัยการรุ่น 100 ปี และเป็นนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 59 รุ่นเดียวกันกับนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ผลงานที่โดดเด่นขณะดำรงตำแหน่งเลขานุการอัยการสูงสุด นายธีรวัฒน์ นับเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนจนเกิดสำนักงานเลขาธิการสำนักงานอัยการสูงสุดและเป็นผู้มีส่วนสำคัญในคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์และงบประมาณจนสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับจัดสรรงบประมาณบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของสำนักงานอัยการสูงสุดอย่างยอดเยี่ยมถึงสองปีซ้อน โดยมีประสบการณ์จากที่เคยอยู่สำนักงานนโยบายยุทธศาสตร์

ในส่วนระดับฝ่ายที่น่าสนใจ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 2 ไม่ขยับยังนั่งตำเเหน่งเดิม

สำหรับวัชรินทร์ เป็นถือเป็นอัยการมือสอบสวน ฝีมือดี เคยได้รางวัลอัยการดีเด่นจบหลักสูตรเอฟบีไอ จากสหรัฐ รุ่นเดียวกับ ‘บิ๊กดำ’ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ โดยมีผลงานสมัยอยู่สอบสวนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายเเดนลุยคดีปล้นปืน ล่าสุดได้รับคำสั่งให้ร่วมสอบสวนคดี ฟอกเงิน สหกรณ์รถไฟ หลังดีเอสไอร้องขอ ซึ่งนายวัชรินทร์มีคิวขึ้นระดับ รอง อธ.ปี 65

ระดับอัยการอาวุโสที่น่าสนใจ

เรือโทสมนึก เสียงก้อง อัยการอาวุโสสำนักงานคดีอาญา 1 ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานคดีพิเศษ 1

นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการอาวุโสสำนักงานคดีภาษีอากร ไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานต่างประเทศ

ซึ่งเดิมนั้นนางอินทรานีเคยตกเป็นข่าวดังในคดีที่ถูก พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ จำเลยในคดีลักพาตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ที่ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง ร้อง อสส.ว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการนำ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากเอกในคดีดังกล่าว หนีหมายจับในคดีฆ่าผู้อื่นที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เดินทางไปยังสหรัฐอาหรับอาหรับเอมิเรตส์

ส่วนบัญชีอาวุโสตั้งใหม่ที่น่าสนใจได้เเก่

นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) ที่นั่งในตำเเหน่ง 2 ปี ไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานอัยการสูงสุด

นายชัชชม อรรฆภิญญ์ รอง อสส. ไปเป็นอัยการอาวุโสสำนักงานวิชาการ

โดยขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อ ก.อ.มีมติเเต่งตั้งจะมีการนำเสนอเพื่อโปรดเกล้าฯ เเต่งตั้งให้มีผลวันที่ 1 ต.ค.นี้

http://www.cmiss.ago.go.th/images/PR/2564/koror8-2564.pdf?ldtag_cl=EjfclxsgSwKMR2DK3LGVzQAA_oa