จากกรณี นางสุณาภรณ์ บุญเกิด หรือ “ป้าพร” เจ้าของร้านขายของชำ ในซอยพหลโยธิน 52 เข้าร้องเพจ “สายไหมต้องรอด” หลังถูกกลุ่มบุคคล 5 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ยัดบุหรี่ปลอมและรีดเงิน 20,000 บาท เพื่อไม่ต้องไปโรงพัก แต่เจ้าตัวต่อรองขอยอมจ่ายเพียง 5,500 บาท ซึ่งหลังจากเป็นกระแสสังคม เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมให้ผู้เสียหายเข้ามาชี้ภาพ 5 เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ก่อนออกหมายเรียกให้ทั้ง 5 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ทั้ง 5 คน ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน เพื่อรับทราบข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์ใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าทีโดยทุจริตร่วมกันบุกรุก, ร่วมกันหน่วงเหนียวหรือกักข้งผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”

เบื้องต้นทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่า ไม่ได้มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เดินทางเข้ามอบตัวเอง และไม่มีพฤติกรรมหลบหนี โดยคดีนี้ เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ทางตำรวจจึงจะส่งสำนวนให้กับทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาว่า จะรับคดีไปดำเนินการเองหรือไม่ หากไม่ก็จะมีการส่งกลับมาให้ทาง สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีภาพจากกล้องวงจรปิดระบุพฤติกรรมชัดเจน ตั้งแต่ รถตู้ของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตขับมาจอดห่างจากหน้าร้านประมาณ 20 เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คน ได้ลงมาจากรถ นำโดย นายอดุลภิเดช ไกยศรี เจ้าพนักงานสรรพสามิตชำนาญงาน, นายธีรภัทร ราชกิจจา นักวิชาการสรรพสามิต, นายชโยโดม เชื่อถือ นักวิชาการสรรพสามิตชำนาญการ, นายณัฐพล พงษ์ศิริ นักวิชาการสรรพสามิต ทั้งสี่คนเดินมาที่หน้าร้าน จากนั้น นายมโนชญ์ พรหมมายน พนักงานขับรถยนต์ ได้เดินตามมาทีหลัง

ขณะที่วงจรปิดภายในร้าน บันทึกภาพ นายมโนชญ์ เข้าไปรื้อค้นหาสิ่งของผิดกฎหมาย ส่วนที่เหลืออีกสี่คน ยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าร้าน และภายในร้าน บางคนยืนสอบถามกับทางป้าพรอีกด้วย ไม่นานนัก นายณัฐพล ก็ได้เข้ามาตรวจที่หลังรถเข็น เพื่อหาของผิดกฎหมาย ก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจากลังเพื่อถ่ายรูป และเดินออกไปที่รถ ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนี้คือ กลุ่มเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้แจ้งให้กับ “ป้าพร” ว่า มีบุหรี่ปลอมจำหน่าย และให้ป้าพรไปดูที่รถตู้ พร้อมบอกให้ป้าเสียค่าปรับทันที 20,000 บาท แต่ “ป้าพร” ปฏิเสธและขอไปโรงพัก ปรากฏว่าอีกฝ่ายพาขึ้นรถและวนรถเพื่อหาข้อตกลง และสอบถามว่ามีเงินติดตัวเท่าไหร่ ก่อนที่ผู้เสียหายจะนำเงินออกมา 5,500 บาท และเอาเงินจำนวนนี้ใส่กระติกน้ำแข็งในรถตู้ ก่อนจะพาตัวกลับมาส่งที่ร้าน และขู่ว่าไม่ให้บอกใคร.