กรณี 2 ผู้สื่อข่าวช่องดัง ถูกพนักงานขับรถเทศบาลเมืองชะอำ จ.เพชรบุรี นำกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 10 คน มาบังคับข่มขู่ล็อกคอ ลบข้อมูลโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้ทำข่าวโคลนถล่มทับรถแบ๊กโฮพร้อมคนขับจมน้ำหายไป เหตุเกิดบริเวณบ่อดินลูกรัง หมู่ 4 บ้านห้วยหิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ของ อดีต ส.อบจ.ดังเพชรบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

2 นักข่าวช่องดังแจ้งจับกลุ่มชายฉกรรจ์ ล็อกคอ-ลบภาพ-ขู่ฆ่า ฉุนทำข่าวโคลนถล่ม

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดอาวุธปืน เป็น ปืนยาว ปืนลูกซอง 2 กระบอก ปืนสั้น 11 มม. 1 กระบอก และ ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม. อีก 2 กระบอก ของนายประสาน (สงวนนามสกุล) พนักงานจ้างตำแหน่งคนขับรถน้ำสังกัดเทศบาลเมืองชะอำ ตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม. 2 กระบอก ของ อดีต ส.อบจ.เขต 3 อ.ชะอำ ตรวจยึดอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 11 มม. 1 กระบอก พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก ของลูกชายนายสมชาย ตรวจยึดอาวุธปืนขนาด.380 ของ นายธนพล (สงวนนามสกุล) ลูกจ้างของนายสมชาย อีก 1 กระบอก เบื้องต้นตรวจสอบปืนที่ยึดมาทั้ง 10 กระบอก พบว่าเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด ส่วนผลการตรวจสอบประวัติเจ้าของอาวุธปืน พบเพียงนายธนพลเพียงคนเดียว ที่เคยมีประวัติคดีเสพยาเสพติด เมื่อปี 2554

พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ไม่ปล่อยปละละเลยให้จังหวัดเพชรบุรี มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเหตุครั้งนี้ยังที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว ซึ่งหากเกิดกับนักท่องเที่ยวจะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวอย่างร้ายเเรง โดยเฉพาะช่วงนี้อยู่ในช่วงที่การเมืองกำลังอยู่ในช่วงรอยต่อ หากปล่อยให้เกิดกลุ่มผู้มีอิทธิพลขึ้น จะสร้างผลกระทบให้กับจังหวัดเพชรบุรีอย่างร้ายแรง ดังนั้น ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่และเป็นธรรม

จากนั้น นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผวจ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายกองโท สมศักดิ์ แย้มพันธุ์นุ้ย นายอำเภอชะอำ พ.ต.อ.สมเกียรติ ผกก.สภ.ชะอำ อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อดินลูกรัง ที่เกิดเหตุ พร้อมให้กำลังใจครอบครัวของ นายประสิทธิ์ ชัยสงคราม อายุ 61 ปี คนขับรถแบ๊กโฮ ผู้สูญหายในน้ำ ขณะเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำค่ายนเรศวร ชุดประดาน้ำมูลนิธิสว่างสรรเพชญ ร่วมดำลงไปค้นหาร่างมานานกว่า 2 วันแล้ว แต่ยังไม่พบ และยังคงเร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บ่อดินลูกรังดังกล่าว มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ผวจ.เพชรบุรี ได้สั่งการให้ปิดป้ายห้ามเข้า และหยุดกิจการบ่อดินลูกรังไปก่อนไม่มีกำหนด เนื่องจากยังไม่พบร่างสูญหายและคดียังไม่สิ้นสุด