สวัสดีค่ะ เหล่าผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” กันอีกแล้วนะคะ สัปดาห์นี้ก็จะขอพูดถึงประเด็นร้อนเบา ๆ แต่เล่นเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงมาก สำหรับเรื่องราวของ “อดีตดารา” ที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา และรู้จักกันเป็นอย่างดีอย่าง “รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์” หรือ “ป้าแมว ดาวพระศุกร์” นักแสดงอาวุโส วัย 81 ปี ที่ก่อนหน้านี้ล้มป่วยหลายโรค จนต้องเข้าโรงพยาบาล รวมถึงอยู่ตัวคนเดียวอย่างยากลำบาก ประกอบกับช่วงหลังไม่ได้มีงานแสดงทำให้ขาดรายได้ แต่ยังโชคดีมีเหล่านางเอกใจบุญ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” และ “แม่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ที่คอยช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายบางส่วน

แต่แล้วก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที หลังจากที่ป้าแมวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “แต่มีบางคน เราขอไม่ออกชื่อ ก็ไปออกสื่อว่า ดูแลป้าแมว จะต้องดูแลป้าแมวจนตลอดชีวิต ซึ่งเขาไม่ได้มาดูแลอะไรเราเลย อันนี้ไม่ขอออกชื่อนะคะ ตัวเขาย่อมรู้ตัวดีค่ะ เขาออกสื่ออยู่เรื่อย ทุกคนมาถามแล้วพูดต๊าย สวยน่ารักแล้วยังใจดี ขอโทษนะคะ สลึงหนึ่งเขาก็ไม่เคยออกให้เลยสักบาทค่ะ” งานนี้เล่นเอาชาวเน็ตต่างหากันให้ควั่กว่าเป็นใครกันแน่ ก่อนที่เพจจะมาให้คำใบ้ว่า “ย จ ร น ม น จ” และหวยก็มาตกที่ดาราสาว “ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม” ซึ่งเธอได้ออกไลฟ์สดชี้แจงทั้งน้ำตาว่า ดาราสาวที่ถูกพุ่งเป้านั้นไม่ใช่เธอ พร้อมยืนยันว่า เธอไม่เคยพูดว่าจะดูแลป้าแมวไปตลอดชีวิต และที่ลงอินสตาแกรมหวังให้คนที่กำลังมาช่วยเหลือเท่านั้น

บอกเลยว่าโลกใบนี้มักมี 2 มุมเสมอ มุมหนึ่งก็มีคนสงสาร แต่อีกส่วนก็หาว่า ป้าแมวหิวแสง เปรียบเป็น “หมาซื่อสัตย์” ที่ถูก อั้ม พัชราภา ชุบเลี้ยงไว้ “แต่นานวันดันกินไม่อิ่ม” เลยวิ่งไปขออาหารจาก ยุ้ย จีรนันท์ ต่อ งานนี้ทำเอาป้าแมวยอมไม่ได้ ร้องไห้ วอนขอให้หยุด พร้อมฝากบอกลูกหนี้ที่เคยยืมเงินตนเองไป ให้มาคืน เพราะตอนนี้ถังแตกแล้วจริง ๆ ก่อนที่สุดท้ายป้าแมวจะออกมาบอกว่า ไม่เคยเอ่ยถึงชื่อยุ้ยเลย และอักษรย่อมาจากไหน ป้าแมวก็งงมาก ๆ พร้อมทั้งขอโทษยุ้ย ที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ทำให้เธอถูกทัวร์ไปลง

ก่อนที่ดราม่าเรื่องนี้จะจบไปแบบงง ๆ หลายคนในสังคมก็ตั้งคำถามว่า “ดาราดังในอดีตทำไมถึงไม่มีการวางแผนการเงินกันบ้างเหรอ” เอาจริง ๆ ก็มีหลายเคสที่เกิดในวงการบันเทิงที่หลายคนพบเจออย่าง อดีตนักแสดงมากความสามารถ “หมวย-สุภาภรณ์ คำนวณศิลป์” ที่จากนางร้ายแถวหน้าในตำนาน ก็กลายเป็น “นางร้ายตกอับ” ไร้งานแสดงมีสภาพการเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปจากฟ้ากลายเป็นเหว ต้องยอม “ขายของแบรนด์เนม” บางส่วนประทังชีวิต ชีวิตตกจากฟ้า จนมีหนี้สินพันตัว ไร้งานไร้เงิน รวมไปถึงอดีตดาราดังมากมายอย่าง “ต่าย-มนัสนันท์ ปานดี”, “ติ๋ม-เพ็ญพร ไพฑูรย์”, “สีดา พัวพิมล” และอีกหลาย ๆ คนที่เคยเป็นข่าวมาแล้ว ซึ่งหลายคนมองว่า “อาชีพดารา” เป็นอาชีพที่มีรายได้มากกว่าคนอื่นหลายเท่าตัว มีทั้งงานแสดง งานร้องเพลง งานอีเวนต์ให้โกยเป็นกอบเป็นกำ ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ๆ แบบนี้ขึ้นมาตลอด

แต่เอาจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเดินมาถึงจุดนี้ได้ง่าย ๆ เพราะอย่างที่บอกอาชีพดารา เป็นอาชีพที่หาเงินง่าย ๆ ได้มาเป็นก้อน หมดก็แค่หาหนัง หาละครเล่น ก็ได้เงินกลับมาใช้จ่ายแล้ว แต่ถ้าสุดท้ายหากใครไม่รู้จักวางแผน แถมยัง “หลงกับแสงสีเสียง ชื่อเสียง และมายา” พอถึงวันหนึ่งที่ “สิ้นแสง หรือ ถูกแทนที่ด้วยดาวดวงใหม่” ก็อาจไม่มีงาน รายได้หดหาย จนสุดท้ายพออายุมากขึ้น หรือทรัพย์สินเริ่มลดน้อยถอยลง ทำให้ “ดาราบางคน” ที่หมดหนทางก็ต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากคนในวงการ หรือเหล่าแฟนคลับที่ยังคงชื่นชอบ แต่สุดท้ายพอไม่มีใครช่วย หรือช่วยไม่พอ ก็เกิดการ “ทวงบุญคุณ” บ้าง แดกดันจนกลายเป็น “ดราม่าใหญ่โต”

สุดท้ายสิ่งสำคัญที่เราเรียนรู้จากป้าแมวในวัย 81 ปี ก็คือ “ในวัย 81 ปีของยุคเรานั้น เราอาจจะยังต้องทำงานอยู่” เพราะสวัสดิการรัฐที่ยังไม่ตอบโจทย์ ทำให้การอดออมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะขนาดป้าแมวทำงานในวงการมานาน เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก พอแก่ตัวไปยังต้องมาขอความช่วยเหลือดาราเลย จนทำให้เราคิดขึ้นมาได้ว่าคงจะดีมากหากมีการ “บรรจุวิชาวางแผนการเงิน” ไว้ในหลักสูตรการศึกษาพื้นฐาน เพื่อเป็นบทเรียนให้เราฉุกคิดได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กว่า “ออมเงินเอาไว้ใช้ในตอนเกษียณ เวลาเจ็บป่วยมาจะได้ไม่ต้องลำบากลำบนไปขอเงินใครที่ไหน”..

ภาพ : คนดังนั่งเคลียร์

———————————————
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”