เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) มีการจัดประชุม คณะกรรมการ กสทช. (บอร์ด) นัดพิเศษ ครั้งที่ 5/2566 เรื่องพิจารณากำหนดคุณสมบัติอื่นของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ซึ่งการประชุเสร็จสิ้นลงเวลาประมาณ 13.00 น. โดยที่ประชุมมีความเห็นไม่ตรงกัน ในประเด็นการเสนอชื่อเลขาธิการ กสทช. จนบอร์ด กสทช. ต้องใช้วิธีโหวตลงคะแนนเสียง

โดย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เสนอต่อที่ประชุมบอร์ด ว่า ประธาน กสทช. จะเป็นผู้เสนอชื่อ เลขาธิการ กสทช. ให้บอร์ดคัดเลือก โดยใช้อำนาจประธาน กสทช. เป็นผู้เลือกเลขาธิการ กสทช. แต่เพียงผู้เดียว โดยอ้างถึง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 61 ให้ประธานกรรมการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.

ทั้งนี้ ผลการลงมติ ชอง บอร์ด กสทช. ทั้ง 6 คน นั้น  ผู้ที่โหวตลงคะแนนเสียงที่เห็นด้วย คือ นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช., นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กสทช. (ด้านการส่เสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน) และ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. (ด้านกฎหมาย)

ส่วนผู้ที่โหวตไม่เห็นด้วย 3 คน คือ พล อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กสทช. (ด้านกิจการกระจายเสียง), ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช. (ด้านกิจการโทรคมนาคม) และรองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช  ศุภชลาศัย กสทช. (ด้านเศรษฐศาสตร์)

อย่างไรก็ตาม เมื่อคะแนนเสียงเท่ากันที่ 3:3 ประธาน กสทช. ได้ใช้อำนาจประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่ม ส่งผลคะแนนโหวตเป็น 4:3  ทำให้ ประธานบอร์ด กสทช. มีสิทธิเสนอชื่อ เลขาธิการ กสทช. แต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องผ่านกระบวนการสรรหา เลขาธิการ กสทช.

แหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวว่า ขั้นตอนจากนี้ ทางประธาน กสทช. จะเป็นผู้ไปทาบทามคนที่มีคุณสมบัติที่เป็นไปตามข้อกำหนด เพื่อให้มาพูดคุยสัมภาษณ์ ซึ่งอาจมีจำนวน 4-5 คน จากนั้นประธาน กสทช. จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกถึงคนที่มีความเหมาะสมที่สุด เพื่อเสนอชื่อให้ บอร์ด กสทช. ลงมติเห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งหากบอร์ดเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับรายชื่อนั้นก็จะตกไป และทำการเริ่มสรรหารายชื่อใหม่อีกครั้งหนึ่ง

“เชื่อว่าการที่ประธาน กสทช. ต้องการเป็นผู้เสนอชื่อ เลขาธิการ กสทช. เพียงคนเดียว เนื่องจากตำแหน่งประธาน กสทช. ต้องทำงานร่วมกับ เลขาธิการ กสทช. จึงอยากได้คนที่ตนเองทำงานร่วมกันได้ มาทำงานด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนสำนักงาน กสทช. ให้เดินหน้า แต่คนที่จะมาเป็นเลขาฯ กสทช. คนใหม่ ก็ยังต้องให้ บอร์ด กสทช. ยังมีการลงมติเห็นชอบอยู่ และหากรายชื่อที่ได้ ไม่เป็นที่ยอมรับ สังคมก็เป็นผู้ตัดสินเอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการโหวต ที่เสียงแตกออกเป็นสองฝั่ง ทำให้ทาง กสทช.  ที่ไม่เห็นด้วยกับ ประธาน กสทช. อาทิ  ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต เตรียมนำเสนอความคิดเห็นของตนเองในเรื่องนี้เสนอต่อสาธารณะให้รับทราบต่อไป.