เมื่อปี 2552 หลิวโหมวฝู่ หนุ่มใหญ่จากมณฑลหูเป่ย์ เคยร่วมมือกับน้องเขยและเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนหนึ่ง เพื่อปล้นเงินจากสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงในท้องถิ่นของเมืองเอนชือ ได้เป็นจำนวน 156 หยวน (ราว 780 บาท) พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และโคมไฟ 1 อัน

หลังจากที่พวกเขาใช้เงินราว 60 หยวน หรือประมาณ 300 บาท เพื่อซื้ออาหารและดอกไม้ไฟ ก็จัดการแบ่งเงินที่เหลือคนละประมาณ 32 หยวน (ราว 160 บาท) แล้วแยกย้ายกันไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผู้สมรู้ร่วมคิดของ หลิว ทั้ง 2 คนในแก๊ง ก็โดนตำรวจจับได้

หลังจากได้ข่าวการจับกุมดังกล่าว หลิว ซึ่งอยู่ในวัย 30 ปีเศษ ณ เวลานั้น ก็ตัดสินใจหาที่ซ่อนตัว โดยเลือกไปหลบอยู่ในถ้ำขนาดเล็กบนหน้าผา ที่อยู่ห่างไกลชุมชนราว 10 กม. 

สภาพถ้ำที่ หลิว พักอาศัยมาตลอดเวลา 14 ปี

ระหว่างหลบหนีคดี หลิว เอาชีวิตรอดด้วยการออกล่าสัตว์และหาอาหารจากกองขยะ เขายังยอมรับด้วยว่า เคยขโมยผักและเนื้อจากชาวบ้าน โดยที่เคยพบปะกับสมาชิกครอบครัวเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ หลิว ยังเลี้ยงสุนัขจรจัดไว้หลายตัว เพื่อช่วยไล่สัตว์ป่า

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา หลิวตัดสินใจมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การว่า เขาอยากจะกลับไปอยู่กับครอบครัวและใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาพลาดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของครอบครัวไปหลายงาน ซึ่งรวมทั้งงานแต่งงานของลูกชายและงานศพของพ่อของเขา

หลิว ซึ่งขณะนี้อยู่ในวัย 50 ปี ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี และนำเจ้าหน้าที่ไปดูถ้ำซึ่งเขาใช้อยู่อาศัยมาตลอดระยะเวลา 14 ปี เขายังบอกทีมสืบสวนว่า ตอนนี้เขารู้สึกเสียดายมาก ที่หลบซ่อนตัวมากว่า 10 ปี

แต่เนื่องจากคดีปล้นทรัพย์ที่เขามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อปี 2552 นั้น มีการใช้อาวุธปืนด้วย หลิว จึงยังอาจจะต้องรับโทษจำคุก 3 ปีเป็นอย่างน้อย หรือโทษสูงสุด 10 ปี

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : indiatimes.com