เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบศพชาย 3 คนถูกฆ่าหมกป่า ห่างจากถนนลพบุรีราเมศวร์ เข้าไปราว 200 เมตร ก่อนถึงไปรษณีย์เขต 9 พื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งจากรูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิต คาดว่าเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา สภาพศพบางคนถูกจับมัดมือมัดเท้า และใช้มีดปาดคอและบางคนถูกทุบด้วยของแข็งที่ใบหน้าและศีรษะ เสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อย 2 วัน

ล่าสุด จากการชันสูตรและตรวจหาหลักฐานในตัวผู้ตายทั้งสามคน แม้ว่าจะยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ชัดได้ว่าเป็นใคร แต่เจ้าหน้าที่พบเบาะแสบางอย่างที่เป็นประโยชน์ และบ่งชี้ว่าทั้งสามคนอาจจะเป็นแรงงานต่างชาวเมียนมา หนีเข้าเมือง และเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาข้ามชาติด้วย

เนื่องจากพบว่าที่ข้อมือของผู้ตายทั้งสามคน มีเชือกฝ้ายสีแดงถักผูกไว้ที่ข้อมือทุกคน บางคนมือซ้าย บางคนมือขวา ซึ่งสัญลักษณ์เชือกแดงถักนี้ มักจะพบในกลุ่มของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองที่เจ้าหน้าที่เคยจับกุมได้ และเป็นสัญลักษณ์ของพวกค้ามนุษย์

สืบสวนเบื้องหน้าเบื้องหลังการตายของทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่จึงให้น้ำหนักและมุ่งประเด็นเชื่อมโยง กับเครือข่ายขบวนการขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติชาวเมีย​นมา ส่วนผู้ตายทั้งสามคน จะเป็นเหยื่อค้าแรงงานเถื่อนหรือเกี่ยวข้อง เป็นนายหน้าผู้นำพาหรือคนที่ทำหน้าที่ประสานยังไม่สามารถชี้ชัดได้ แต่คดีนี้ไม่น่าจะใช่คดีฆ่าธรรมดา ที่มาจากการทะเลาะวิวาท แต่น่าจะมีชนวนเหตุที่ลึกกว่านี้ โดยเฉพาะการขัดผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับการค้าแรงงานเถื่อน ที่สำคัญจากการตรวจสอบบริเวณป่าจุดเกิดเหตุพบว่า เคยถูกใช้เป็นแคมป์ที่พักชั่วคราว ของแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา เพื่อรอข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย โดยอยู่ลึกเข้าไปจากจุดที่พบศพของทั้ง 3 คน ประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ ทั้งหลักฐานและข้อมูลสภาพแวดล้อมในจุดเกิดเหตุ ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เรื่องนี้น่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการค้าแรงงานเถื่อน

ล่าสุดหลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวนทั้งของ สภ.บางกล่ำ ชุดสืบสวนภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 ชุดสืบสวน ตม. และฝ่ายปกครองอำเภอบางกล่ำ ได้ประชุมวางแผน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อคลี่คลายคดีนี้ โดยเฉพาะการสอบสวนขยายผลเครือข่ายขนแรงงานเถื่อน ที่เคยถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อสาวไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุ