เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. เขตลาดกระบัง แถลงข่าวคัดค้านแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งกกต. กทม. ว่าได้เห็นประกาศจากสำนักงาน กกต. ถึงกกต. กทม. ว่าจะมีการเลือกใช้การแบ่งเขตการเลือกตั้งของ กกต.แบบที่ 1 ซึ่งเป็นแบบที่พรรคเพื่อไทยมีความกังวลใจว่าส่อขัดต่อกฎหมายเลือกตั้ง ที่ผ่านมามีความหวังว่า กกต.จะได้ยินเสียงการทักท้วงของพรรค พท. จึงไม่ลดละความพยายามที่จะแถลงข่าวให้เสียงดังขึ้นแต่สุดท้าย มีประกาศออกมาเลือกแบบที่ 1 จึงจำเป็นต้องส่งเสียงอีกครั้ง เพราะถือเป็นการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เรียกว่า Gerrymandering ที่ผู้อำนาจจงใจเปลี่ยนแปลงเส้นเขตเลือกตั้งเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ผู้ที่รับผลกระทบโดยตรงมากที่สุด คือภาคประชาชน คืนวานนี้ประชาชนร้องเรียนมาว่าได้รับผลกระทบจากการแบ่งเขต เพราะพวกเขาได้หมายมั่นปั้นมือว่าจะเลือก ส.ส.คนนี้ ให้ไปเป็นผู้แทนให้ได้มาทำงานต่อ เพราะที่เคยร่วมงานใกล้ชิดกันมาก่อน

หาก กกต.ยืนยันที่จะใช้การแบ่งเขตแบบที่ 1 ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาเยลือกตั้ง ในท้ายที่สุดอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะทั้งประเทศ กกต. ต้องกำหนดเขตเลือกตั้งและจำนวน ส.ส. แต่ละเขตเลือกตั้งกันใหม่ แล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ รวมไปถึงจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศชาติ ความมีเสถียรภาพของประเทศชาติ ความขัดแย้งทางการเมือง และงบประมาณแผ่นดิน หากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป จนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จ ซึ่งนานเท่าใดก็ไม่มีใครรู้ หมายความว่าผู้มีอำนาจนำประเทศชาติและประชาชนเป็นตัวประกันให้กับความเสียหายนี้ใช่หรือไม่ หาก กกต. ไม่ดูดีดูดาย พิจารณาคำท้วงติงของพรรคเพื่อไทย หากเกิดอันตราย เสียหายขึ้น กกต. จะรับผิดชอบไหวหรือ ถ้าหากการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

“พรรค พท. พร้อมสู้ทุกกติกาที่มีความยุติธรรม หรือที่ถูกกำหนดขึ้น พรรค พท. จะเดินหน้าต่อ เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งให้ได้ ให้พี่น้องประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง ให้นำประชาธิปไตยกลับมา และทำให้ประชาชนเห็นว่า ยิ่งพรรคการเมืองที่พวกเขาสนับสนุน ได้ใช้พลังประชาชน ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจที่ไม่เป็นธรรมเหล่านั้น” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

ทางด้าน นายสุรชาติ เทียนทอง ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ กล่าวว่า การแบ่งเขตแบบที่ 1-2 จะยึดหลักตามตัวเลขประชากรที่ให้สมดุลกัน ส่วนแบบที่ 3-4 จะยึดหลักเขตปกครอง เมื่อเราไปดูที่มาตรา 27 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ “ให้รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” และให้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งตามสภาพของชุมชนที่ราษฎรมีการติดต่อกันเป็นประจำในลักษณะที่เป็นชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน” เป็นเรื่องหลักในการแบ่งเขต ไม่ใช่แบ่งเขตเลือกตั้งตามแขวง

ยกตัวอย่าง กรณีเขตเลือกตั้งที่ 9 ของเขตบางเขน 1 แขวงของเขตบางเขน จะไปรวมกันกับ 2 แขวงของเขตจตุจักร และจะมารวมกับอีก 1 แขวงของเขตหลักสี่ ซึ่งถือว่าเป็นการเอาเศษเสี้ยวของ 3 เขตการปกครองมารวมเป็นหนึ่งเขตการเลือกตั้ง หรือฝั่งธนบุรี ยกตัวอย่าง เขตที่ 32 ของ 1 แขวงบางกอกน้อย มารวมกันกับเขตบางกอกใหญ่ และมารวมกับบางแขวงภาษีเจริญ บางแขวงของเขตตลิ่งชัน บางแขวงของเขตธนบุรี ถือเป็นการแบ่งเขตที่พิลึกพิลั่น ถ้าเราไปดูตามมาตรา 27 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ถือว่าเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายชัดเจน แม้วันนี้จะมีพรรคการเมืองไปยื่นร้องต่อศาลปกครอง แล้วทาง กกต.จะมีการยืนยันให้การเลือกตั้งในการแบ่งเขตแบบนี้ ถ้าหากศาลปกครองจะตัดสินมาภายหลัง ต้องมีผู้รับผิดชอบ

“หลักการการยึดอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง เมื่อมีการเอาเศษเสี้ยวของแต่ละแขวง จะเห็นได้ว่ามีรูปร่างการแบ่งเขตที่บิดเบี้ยว ทั้งที่การแข่งเขตเลือกตั้งควรจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และประชาชนไม่ได้มีความใกล้ชิดกัน พรรค พท. ได้เสนอไปแล้วว่าควรจะยึดเขตการเลือกตั้ง ตามแบบให้ใกล้เคียงกับปี 54 และปี 57 มากที่สุด” นายสุรชาติ กล่าว.

ส่วน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. ในฐานะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กทม. กล่าวถึงกรณีแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ รวมถึงพื้นที่ กทม.ด้วยว่า ตอนนี้พรรคได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่า กกต.มีการประชุมสรุปแบบแบ่งเขตแล้ว ซึ่งยอมรับว่าน่าจะมีกระทบบ้างในบางเขตที่ต้องขยับ เพราะมีการทับซ้อนของผู้สมัคร ส.ส.ในบางเขต ขณะนี้กำลังหารือกันอยู่ เมื่อเช้าวันที่ 16 มี.ค. ตนได้หารือกับ นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรค ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ กทม. ว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ว่าจะแบ่งเขตแบบไหน พปชร. พร้อมทุกสถานการณ์ และพรรคจะพิจารณาเรื่องตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้ดีที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บางคนไม่ได้ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต มีการเตรียมเรื่องงานอย่างอื่นไว้ให้หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ต้องมีการเตรียมงานไว้ให้ แต่รอให้สรุปชัดเจนก่อน