สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่17 มี.ค. ว่า สืบเนื่องจากการที่ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ( ไอเออีเอ ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ยูเรเนียม ประมาณ 2.5 ตัน “ไม่ได้อยู่ในสถานที่ซึ่งรัฐบาลลิเบียเคยแจ้งอย่างเป็นทางการต่อไอเออีเอ” และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งติดตามหา เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านกัมมันตรังสี และควบคุมปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์ให้เร็วที่สุด โดยไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่า สถานที่เก็บแห่งเดิมคือที่ใดนั้น


ต่อมามีรายงานจาก กองทัพแห่งชาติลิเบีย ( แอลเอ็นเอ ) มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศ โดยอยู่ภายใต้การนำของ พล.อ.คาลิฟา ฮาฟตาร์ ซึ่งประกาศตัวเองเป็น “รัฐบาลคู่ขนาน” กับรัฐบาลแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ในกรุงตริโปลี ซึ่งอยู่ทางตะวันตก และสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ให้การรับรอง ประกาศว่า พบยูเรเนียมที่หายไปครบทั้งหมดแล้ว ในบริเวณที่ห่างจาก “แหล่งจัดเก็บเดิม” ที่อยู่ทางตอนใต้ของลิเบียประมาณ 5 กิโลเมตร และแจ้งให้ไอเออีเอทราบแล้ว


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2546 รัฐบาลลิเบีย ภายใต้การนำของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ประกาศยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมด ก่อนที่อีก 8 ปีต่อมา คือในปี 2554 เกิดการลุกฮือที่ได้รับการสนับสนุนโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ซึ่งมีสหรัฐเป็นหัวเรือใหญ่ เพื่อขับไล่ พ.อ.กัดดาฟี เป็นชนวนให้ลิเบียตกอยู่ในสภาพไร้ขื่อแปจนถึงปัจจุบัน.

เครดิตภาพ : REUTERS