เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มี.ค. 66 ที่ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงาน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 400 เขต รวมถึงแถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมลอตใหม่ที่ใช้ในการเลือกตั้ง โดยมีแกนนำพรรค และสมาชิกพรรคเข้าร่วม นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นายสุทิน คลังแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำบ้านใหญ่ชลบุรี โดยบรรยากาศ มีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมาร่วมเชียร์ว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ตัวเองจนล้นยิมเนเซียม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรค พท. ได้จัดเก้าอี้บนเวทีให้ว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต โดยโฆษกบนเวทีได้ขานชื่อว่าที่ผู้สมัครทีละจังหวัดเพื่อให้เดินขึ้นเวที เมื่อถึงจังหวัดใดผู้สนับสนุนของพื้นที่นั้นๆต่างตะโกนเชียร์จนเสียงดังลั่นยิมเนเซียม โดยส่วนใหญ่เป็นส.ส. และสมาชิกพรรคการเมืองที่ร่วมงานการเมืองกับพรรค พท. มาโดยตลอด มีเพียงบางคนที่เพิ่งเข้ามาสังกัดพรรค อาทิ นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ อดีตส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ น้องสาวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่มีกระแสข่าวเตรียมย้ายเข้าร่วมพรรค เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.สุโขทัย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ เลขาธิการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ชลบุรี นางสุกุมล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี นายอาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล บุตรชายนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมช.คมนาคม เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา เมื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครแล้วทางพรรคได้เปิดตัวเอ็มวีเพลง “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ซึ่งเป็นเพลงใหม่ที่จะให้ในการหาเสียง

จากนั้นเวลา 10.20 น. นพ.ชลน่าน กล่าวปราศรัยว่า เราประกาศเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน วันนี้เป็นวันที่เราได้แสดงความพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจให้มากที่สุด ให้ได้ตัวแทนไปทำงานในสภาฯเพื่อเปลี่ยนประเทศให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตนเชื่อว่าว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขตของพรรคเพื่อไทย มีความพร้อมชนะเลือกตั้ง สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือ วันนี้กระแสพรรคเพื่อไทยดีมาก ถ้าผู้สมัครประมาทหวังอาศัยกระแสพรรคอย่างเดียว ไม่เข้าถึงประชาชนไม่จัดเวทีปราศรัยย่อย ไม่ทำงานอย่างเข้มแข็ง ถึงวันเลือกตั้งอาจเจอความพ่ายแพ้ได้

จุดแข็งของเราคือนโยบาย เราต้องเน้นปราศรัย อย่าปาเงิน เพราะถ้าใช้วิธีนั้นจะพ่ายแพ้เพราะไปเล่นเกมของเขา พรรคจะไม่สนับสนุนการกระทำเช่นนั้น วันนี้เราจะเปิดโนบายใหม่ อยากให้ว่าที่ผู้สมัครศึกษาให้กระจ่างแล้วนำไปบอกต่อกับประชาชน พรรคเพื่อไทยจะกลับมารับใช้ประชาชนเหมือนในอดีต คืนความหวังคืนความสุข ขอให้ประชาชนเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พรรคเพื่อไทยจะนำประชาธิปไตยที่กินได้มาคืนให้ประชาชน แลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ปลดหนี้ปลดสิน ยาเสพติดจะหมดไป แลนด์สไลด์เท่านั้นที่จะล้างรัฐธรรมนูญสืบทอดการรัฐประหาร

ทางด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงนโยบายใหม่ว่า นโยบายต่อจากนี้จะแสดงให้เห็นว่าเราคิดใหญ่เพราะทำเป็น เนื่องจากการรัฐประหารปี 49 และ 57 ประเทศขาดความต่อเนื่องของการบริหารอย่างมียุทธศาสตร์ คนที่เสียเปรียบที่สุดคือเจน z ที่เกิดปี 40-55 ต้องเจอกับรัฐประหารและปัญหาต่างๆ การบริหารประเทศก็เป็นแบบวันต่อวันไม่เข้าใจความทุกข์ยากของประชาชน ปัญหาต่างๆไม่ได้รับการแก้ไข ประเทศมีหนี้อย่างมาก หนี้ครัวเรือนก็มีเพิ่มขึ้น ช่องว่างของรายได้ประเทศไทยสูงเป็นอันดับต้นๆของโลก ถ้าไม่คิดใหญ่เอาไม่อยู่จริงๆ โดยนโยบายที่จะประกาศใหม่วันนี้

โดยนโยบายแรกจะช่วยลดช่องว่างทางรายได้ของประชาชน รายได้ต่อหัวน้อยกว่าอัตราเงินเฟ้อ แม้จะมีการลงทะเบียนคนจนรัฐจ่ายเงินบางส่วนชดเชยแต่ไม่เพียงพอ ความยากจนเขาไม่ได้อยากจน ไม่ได้อยากมีหนี้สินแล้ววางแผนอนาคตให้ลูกหลานไม่ได้ เราจึงมีนโยายที่จะอุ้มประชาชนขึ้นมา ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน โดยนโยบายใหม่ เราจะสำรวจครอบครัวที่มีรายได้น้อยกว่า 2 หมื่นบาทต่อเดือน เราจะเข้าไปช่วยเหลือทันที ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเทคโนโยลีการเงินสมัยใหม่ในเอเชีย แก้ปัญหา PM2.5 ทันทีด้วยการปล่อยน้ำท่วมตอข้าวแทนการเผา และขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เปลี่ยนเครื่องจักรที่สร้างมลภาวะ มีการบริการสาธารณสุขที่ดี ระบบราชการจะปรับปรุงให้ทันสมัยเป็นการรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง และจะดูแลข้าราชการให้มีแรงและกำลังดูแลประเทศอย่างมีเกียรติศักดิ์ศรี

“ขอให้ผู้สมัครใช้ความจริงใจของท่านพร้อมทำเพื่อประชาชนด้วยหัวใจที่แท้จริง ถ้าเราไม่เอาความจริงใจเข้าแลก ประชาชนจะรับรู้สิ่งนี้ไม่ได้แล้วเราจะไม่ชนะการเลือกตั้ง ขอให้ผู้สมัครของเราชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ชนะใจของประชาชน ขอให้ประเทศไทยมีพรรคเพื่อไทยที่จริงใจรักประชาชนอย่างแท้จริงมาดูแลพี่น้องประชาชนทุกๆคน เราจะมาร่วมกันแก้ปัญหาที่สะสมมา 8 ปีให้เบาบางและหายไปในที่สุด”

ขณะที่ นายเศรษฐา กล่าวว่า 8 ปี ของการบริหารรัฐบาลที่ผ่านมาประเทศไทยถดถอยตกต่ำลงเรื่อยๆ ตนเชื่อว่าทุกคนไม่ได้เห็นต่างจากตน จากการลงพื้นที่เห็นเกษตรกรรายได้ลดน้อยลง การศึกษาและแบบเรียนที่ล้าสมัยไม่เห็นความเหลื่อมล้ำที่ไม่เท่าเทียมในสังคม คนที่มีเพศสภาพที่แตกต่างถูกกระทำอย่างเหลื่อมล้ำ คนมีอภิสิทธิ์ใหญ่คับฟ้า ทำผิดไม่ผิด เห็นผู้นำไร้หัวใจ ขับไล่ประชาชนที่มีศักยภาพให้ออกจากแผ่นดินที่เขาเกิด เพียงแค่คนเหล่านี้ไม่อยู่ภายใต้โอวาท ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคนต่างฝากความหวังไว้ในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนประเทศ เขาอยากเลือกพรรคการเมืองที่เป็นความหวังมาสร้างโอกาสให้ชีวิตเขาดีขึ้น เราจะต้องกู้เศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลกู้เงินมหาศาลแต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ปัญหาต่างๆที่รัฐบาลอ้างทุกประเทศเจอกันหมด แสดงให้เห็นถึงความสามารถบริหารภายใต้รัฐบาลนี้ พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องจุดประกายให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาวิ่งฉลุยอีกครั้ง เหมือนที่พรรคไทยรักไทยทำมาตอนต้มยำกุ้งเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย

นโยบายของพรรคเราจะทำให้เงินถูกอัดเข้าระบบหมุนหลายรอบ เอาธุรกิจที่ไม่เสียภาษีซึ่งคาดว่ามีมากกว่า 1 ล้านๆบาทเข้าระบบ จะทำให้สามารถจัดเก็บภาษีได้ 3 แสนล้านบาท จะไม่มีมาเฟียในธุรกิจเหล่านี้อีก ไม่มีตำรวจนอกแถวเรียกรับส่วยอีกต่อไป จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามา รวมทั้งสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัลเข้ากระเป๋า แต่ตัวเลขขออุบไว้ก่อน โดยเหรียญดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ในร้านค้าที่มีรัศมี 4 กิโลเมตรจากบ้านพัก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยเหรียญดังกล่าวจะมีอายุใช้งาน 6 เดือน

สำหรับร้านค้าสามารถนำเหรียญเป็นเงินได้กับธนาคารรัฐใกล้บ้าน เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ สร้างโอกาส ให้ประชาชนตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย ด้านการต่างประเทศ จะทำให้ประเทศไทยพร้อมแข่งขัน เพราะ 8 ปี ที่ผ่านมาผู้นำประเทศไทยไม่ได้ไปเจรจาการค้าทำให้ไทยเสียโอกาส รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะขยันไปสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มากขึ้น ไม่ต้องอะไรมาก แค่เรื่องของ พาสปอร์ต คนไทยไปต่างประเทศต้องใช้วีซ่า ขณะที่หลายประเทศมาไทยไม่ต้องใช้วีซ่า ทำให้คนไทยดูไม่มีศักดิ์ศรี เราจะเจรจาโดยไม่ให้มีผลกับการท่องเที่ยว ทำให้พาสปอร์ตไทยได้รับยกเว้นวีซ่าในอีกหลายประเทศมากขึ้น จะสนับสนุนให้คนไทยและต่างชาติไปเที่ยวเมืองรอง เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวนำเงินมาฝากในไทย

พรรคเพื่อไทยจะคืนสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของประชาชน ทุกคนมีประสบการณ์ความไม่เท่าเทียมในสังคม ทั้งกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม เส้นสาย ที่เห็นคนไม่เท่ากัน คนรวยใหญ่คับฟ้า และมีอภิสิทธิ์ใช้กฎหมายเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ศักดิ์ศรีคนธรรมดาถูกด้อยค่า เป็นเรื่องที่ตนคับแค้นใจเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลเพื่อไทย ตั้งใจเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารให้เป็นระบบสมัครใจ ให้อาชีพทหารต้องแข่งขันกับภาคเอกชน พัฒนาระบบการฝึกเพื่อตอบคำถามได้ว่าเป็นทหารแล้วได้อะไร จบแล้วทำอะไรต่อ ทั้งสายอาชีพทหารและพลเรือน เพื่อให้สถาบันทหารมีความเป็นมืออาชีพ ได้รับการยกย่องในฐานะรั้วของชาติ

สำหรับเรื่องสิทธิความหลากหลายทางเพศที่ถูกด้อยไปหลายอย่าง เช่น สิทธิประกันสังคม สวัสดิการ การหมั้น การอุ้มบุตร พรรคเพื่อไทยจะสร้างความเสมอภาคให้สิทธิคนทุกกลุ่มได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะเราเชื่อว่าทุกคนเท่ากันโดยปราศจากเงื่อนไขเพศสภาพ จะแก้ไขกฎหมายคืนสิทธิทุกคนอย่างครบถ้วน ตนอยากเห็นคนเท่ากัน คนรวย คนจน ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ทุกคนคือคนเหมือนกันมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน

“ผมขอประกาศเลยว่า ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย เราจะไม่สนับสนุนการจัดวงสังคมที่อภิสิทธิ์ชน นักบริหาร ข้าราชการเอื้อประโยชน์กันเอง ทำให้นโยบาย กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมถูกบิดพลิ้ว เราจะปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมายกระบวนการยุติธรรม นำศักดิ์ศรีที่ถูกย่ำยีจากผู้ใช้อำนาจในทางที่ผิดคืนให้ประชาชนอย่างแท้จริง ผมอยากเห็นสังคมเส้นสาย สังคมเลือกปฏิบัติ สังคมไม่เสมอภาคหมดไป หรืออย่างน้อยก็ต้องเบาบางกว่าทุกวันนี้ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย สิ่งที่กล่าวมารัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะทำให้ประชาชนทุกคนทุกกลุ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น มีกินมีใช้มีศักดิ์ศรี ขอให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นำนโยบายเหล่านี้ไปถึงประชาชน อวยพรให้ทุกท่านได้ชนะเลือกตั้ง ได้เป็นส.ส.ของประชาชน และให้เพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล” นายเศรษฐา กล่าว.

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายเศรษฐายังกล่าวภายหลังเปิดนโยบายใหม่ถึงการตอกย้ำเป้าหมายชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ ว่า เรามีความเชื่อว่านโยบายที่เปิดในวันนี้ เป็นนโยบายที่จะลงไปถึงประชาชนทุกคน ซึ่งจะเป็นจิ๊กซอว์สุดท้ายที่จะทำให้เราชนะการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า นโยบายส่วนใหญ่ที่ออกมาจะต้องใช้เงิน นายเศรษฐา กล่าวว่า จริงอยู่ที่เราใช้เงิน แต่ขั้นตอนที่เรามี โดยใส่เงินลงไปจะมีผลกลับมา เมื่อประชาชนมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น และมีการจ่ายภาษีได้ ก็จะกลับมาเป็นรายรับของรัฐบาล แต่บางส่วนก็ต้องมีการจ่ายไปก่อน

เมื่อถามว่า ขณะนี้รัฐบาลมีหนี้เยอะหากเพื่อไทยตั้งรัฐบาลจะสามารถเริ่มนโยบายได้เมื่อไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้น และผ่านการรับรองจากรัฐสภา เราจะสามารถเริ่มนโยบายของพรรคได้เลยทันที ซึ่งพรรคเพื่อไทยเรามีหลายนโยบายที่จะไม่ใช้เงินใส่ลงไปอย่างเดียว เช่น นโยบายทางการเกษตร ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปด้วย พร้อมเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องใส่เม็ดเงินลงไป ส่วนรายละเอียดของเม็ดเงินที่จะไปใช้ยังไม่เปิดเผย

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงรายละเอียดในนโยบายเติมรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนต่อครอบครัวว่า นโยบายดังกล่าวคิดจากครัวเรือน ไม่ใช่คิดต่อคน ถ้าครอบครัวใดรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือน เราจะเติมเงินให้เพื่อให้เขามีศักยภาพในการดำเนินชีวิต และเสียภาษีกลับมายังรัฐบาล ย้ำว่าเราจะไม่ใช้นโยบายแจกเงินไปทั่วและไม่ได้อะไรกลับมาเลย โดยเราไม่สามารถใส่เงินไปแค่จุดเดียว และแก้ปัญหาไปวันต่อวัน อันนี้คือนโยบายกระตุ้นฐานราก พร้อมกระตุ้นทั้งระบบ

ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย กังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการตอกย้ำภาพความเป็นพรรคของครอบครัวชินวัตร ทำให้ น.ส.แพทองธาร ส่งไมโครโฟนให้ นายเศรษฐา เป็นผู้ตอบคำถามแทน โดยนายเศรษฐา ได้ผายมือไปยังที่นั่งของคณะผู้บริหารพรรค และผู้ประสงค์ลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนกล่าวยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว บุคลากรของพรรคเพื่อไทยล้วนแล้วเป็นผู้ที่ยอดเยี่ยมมีความรู้ความสามารถ