สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่า จากรายงานการจัดอันดับความมั่งคั่งทั่วโลก ประจำปี 2566 ของบริษัท หูรุ่น รีพอร์ต จีนเสียตำแหน่งมหาเศรษฐี 229 คน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนคน ซึ่งหายไปจากรายชื่อมหาเศรษฐีทั้งหมด 445 คน

“จำนวนมหาเศรษฐีในโลกลดลง 8% ขณะที่ความมั่งคั่งโดยรวมของพวกเราร่วงลง 10%” นายรูเพิร์ต ฮูกเวิร์ฟ ผู้ก่อตั้ง และประธานบริษัท หูรุ่น รีพอร์ต กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนมหาเศรษฐีทั่วโลกในปีนี้อยู่ที่ 3,112 คน เมื่อเทียบกับ 3,381 คน จากสถิติของปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ จีนยังคงเป็นประเทศที่มีมหาเศรษฐีมากที่สุดในโลก ซึ่ง ณ วันที่ 16 ม.ค. 2566 จำนวนมหาเศรษฐีทั้งหมดของจีน อยู่ที่ 969 คน รองลงมาคือสหรัฐ ที่มีมหาเศรษฐีรวม 691 คน

อย่างไรก็ตาม นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน ร่วงจากอันดับที่ 34 มาอยู่ที่อันดับ 52 เมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการปราบปรามด้านกฎระเบียบ ต่อภาคส่วนเทคโนโลยีของประเทศ

“การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย, การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, ภาวะฟองสบู่แตกของภาคส่วนเทคโนโลยีที่เกิดจากโรคโควิด-19 และผลกระทบต่อเนื่องของสงครามรัสเซีย-ยูเครน การรวมกันของปัจจัยเหล่านี้ สร้างความเสียหายต่อตลาดหุ้น” ฮูกเวิร์ฟ กล่าว

อย่างไรก็ดี ฮูกเวิร์ฟ ระบุเพิ่มเติมว่า โดยทั่วไปเขามีมุมมองเชิงบวกต่อปีนี้ หลังจากการวัดระดับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และความสุขในกลุ่มคนที่มีความมั่งคั่งสูงของจีน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES