สวัสดีค่าทุกท่าน กลับมาพบกับพวกเรา “ชาวบ้าน 1/4” กันอีกแล้วนะคะ สัปดาห์นี้ก็จะพาทุกคนไปพูดถึงประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ที่หายคนให้ความสนใจไม่แพ้เรื่องราวการเมืองที่กำลังดุเดือดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรื่องที่เรากำลังจะพูดถึงนั้นก็คื่อเรื่องราวของอินฟลูเอนเซอร์ แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง “อนิวัต ประทุมถิ่น” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “นารา เครปกะเทย” ที่เธอถูกชาวเน็ตจำนวนมากออกมาแฉหลังมีการร่วมลงทุน “กล่องสุ่ม” แต่สุดท้ายไปกลับไม่ได้อย่างที่เจ้าตัวการันตี แถมไม่ได้รับเงินทุนคืน กลายเป็น “กล่องสุ่มทิพย์” และเกิดเป็นความเสียหายนับล้านบาท

 และเมื่อทวงถามก็ถูกตอบกลับไล่ให้ไปฟ้องเอา จนมีคนออกมาแฉ และเกิดวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ จนสุดท้ายเธอถูกออกหมายจับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 751/2566 ข้อหา “โฆษณาหรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดกฎหมาย, ฉ้อโกงประชาชน, ทุจริตหรือหลอกลวงโดยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” และถูกคุมตัวไปฝากขังในที่สุด พร้อมพบข้อมูลการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนารา มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมากถึงกว่า 300 ล้านบาท

ซึ่งบอกได้เลยว่าหลังเกิดเรื่องราวนี้ขึ้นเหล่าชาวเน็ต รวมทั้งแฟนคลับของเธอจำนวนมาก ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรง พร้อมบอกว่าเหมือนนาราใช้ “ความเชื่อใจ” ของแฟนคลับที่มีต่อเธอ “มาใช้หากินในทางที่ไม่ถูกต้อง” เพราะตัวนาราเองสมัยก็เป็นเน็ตไอดอล “ที่ชีวิตเริ่มจากศูนย์” แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนน่ารัก เข้าถึงได้ง่ายและยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน ด้วยเหตุผลนี้ทำเอาหลายคนชื่นชอบในตัวเธอ จน “นำเธอสู่ความสำเร็จ” ในปัจจุบัน และหากพูดถึงเรื่องราวของเธอต้องบอกเลยว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นสู้ชีวิตมาตั้งแต่เธอยังเป็นวัยรุ่น ชีวิตของเธอกว่าจะประสบความสำเร็จในแบบทุกวันนี้ เธอเคยทำผิดมาแล้วมากมาย

โดยก่อนที่เธอจะโด่งดังและมีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ เธอเล่าว่าเธอก็ทำมาแล้วหลายอย่าง ทั้งแดนเซอร์ ขี่วินมอเตอร์ไซค์ ขายปลาหมึกย่าง ขายของในห้าง นอกจากนี้ ยังมีสิ่งผิดๆที่เธอเคยทำ ไม่ว่าจะหลอกเอาเงินที่บ้านไปทำศัลยกรรมและเปย์ผู้ชาย ติดหนี้จนโดนประจาน พอมาขายของก็โดนขโมยเงิน และยังเคยขายตัวอีก แต่เธอก็กัดฟันสู้ชดใช้ในสิ่งที่เคยทำ โดยเธอเริ่มเป็นที่รู้จักมาจากการขายเครป จากการที่มีคลิปดัง คนชอบคนสนใจ จนทำให้เธอกลายเป็น “เน็ตไอดอลสายฮาในชั่วข้ามคืน” และเป็นที่รู้จักบนโลกออนไลน์ มีงานรีวิวเข้ามากมาย จากชีวิตติดลบ จนสามารถซื้อบ้านให้แม่ ปลดหนี้ได้ และทำเงินได้เท่าไหร่ก็ให้แม่หมดเลย

หลังจากนั้นเธอก็โลดเล่นอยู่บนโลกออนไลน์ และได้ความชื่นชอบ และคำชื่นชมจากการที่เธอทำคอนเทนต์เหมาสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด หรือแจกเงินช่วยเหลือคนยากจน จนมีคนเข้ามาแชร์ และให้ความสนใจกันอย่างต่อเนื่อง และที่หลายคนชื่นชมในตัวเธอหนักมากนั้นก็คือเธอได้ทำการ “ควักเงินส่วนตัว” ได้ “บริจาคเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด” ให้กับ รพ.สระบุรี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ที่หาที่รักษาไม่ได้ จนหลายคนเอ่ยปากชม และขอสมัครมาเป็นแฟนคลับเธอ พร้อมสนับสนุนในทุกๆ อย่างที่เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นผลงงานคอนเทนต์ สิ่งที่เธอทำ อาสารเสริม งานรีวิวที่เธอได้รับ รวมทั้งของออนไลน์ที่เธอนำมาขาย จนหลายคนมองว่าเธอ “ประสบความสำเร็จ” เป็นอย่างมาก

ก่อนสุดท้ายเธอจะต้อง “ดำดิ่งลงมาสู่จุดเริ่มต้น” ด้วยน้ำมือของเธอเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่าหากตัวนาราเอง “ซื่อสัตย์” และ “รักษาความเป็นตัวเธอ” ไว้ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เหตุการณ์ที่ทำให้เธอ “ก้าวไปสู่ถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ก็ต้องตกลงมา” ซึ่งแล้วเรื่องนี้ก็คงโทษใครไม่ได้ เพราะก็ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละคนว่าจะเลือกเส้นทางของตนเองไปในทิศทางไหน แต่ก็ทำให้นึกถึงคำคมที่เคยมีคนบอกไว้ว่า “เงินไม่ได้เปลี่ยนคนไม่ดีเป็นคนดี หรือคนดีเป็นคนไม่ดี เงินทำให้คนๆ นั้นแสดงออกถึงตัวเขาได้มากขึ้นต่างหาก”..

ภาพ : อนิวัต ประทุมถิ่น

———————————————
คอลัมน์ “คันปากอยากเมาท์”
โดย “เมี้ยนฤดี”