สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า คณะลูกขุนใหญ่แมนฮัตตัน ในนครนิวยอร์ก มีมติเมื่อวันพฤหัสบดี สั่งฟ้อง นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จากกรณีมอบหมายให้ นายไมเคิล โคเฮน ซึ่งตอนนี้เป็นอดีตทนายความของเจ้าตัว จ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.4 ล้านบาท ) “เป็นค่าปิดปาก” ให้แก่ น.ส.สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์ผู้ใหญ่ เพื่อไม่ให้ฝ่ายหญิง “เปิดโปง” ความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ระหว่างเธอกับทรัมป์


ทั้งนี้ รายละเอียดของข้อหาและเนื้อหาในสำนวนยังไม่มีความชัดเจน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าน่าจะมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ทรัมป์กลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐคนแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกดำเนินคดีอาญา และเมื่อศาลเปิดเผยข้อหาทั้งหมดอย่างเป็นทางการแล้ว ทรัมป์ต้องเดินทางไปยังศาลที่เขตแมนฮัตตันด้วยตัวเองตามหมายเรียก เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ และเข้าสู่กระบวนการ


ขณะที่ ทรัมป์ออกแถลงการณ์ยืนกราน “ความบริสุทธิ์” ด้านทีมงานฝ่ายกฎหมายของอดีตผู้นำสหรัฐให้ข้อมูลเพียงว่า ลูกความจะ “ต่อสู้อย่างถึงที่สุด” กับทุกข้อกล่าวหา ทว่ายังไม่มีความชัดเจนว่า ทรัมป์จะมอบตัวเพื่อสู้คดีเมื่อใด โดยเมื่อช่วงกลางเดือน มี.ค. ทรัมป์โพสต์ข้อความบน ทรูธ โซเชียล ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ก่อตั้งเอง เรียกร้องให้บรรดาผู้สนับสนุนออกมาประท้วง หากมีการจับกุมเขาเกิดขึ้น


การโพสต์ดังกล่าวเพิ่มความวิตกกังวลให้กับหลายฝ่าย ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับการจลาจลที่รัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 โดยในวันนั้น มวลชนฝ่ายนิยมทรัมป์บุกรุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา เพื่อพยายามขัดขวางการประชุมวาระพิเศษของสภาคองเกรส เพื่อรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีชัยชนะเหนือทรัมป์


อนึ่ง คดีกับศาลที่เขตแมนฮัตตันเป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายคดี ที่ทรัมป์กำลังเผชิญหลังหมดวาระผู้นำสหรัฐ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า อาจส่งผลต่อแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของเจ้าตัว ในการชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน สู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2567 โดยผลสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์/อิปซอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า 44% ของกลุ่มตัวอย่างที่สนับสนุนพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ทรัมป์ควรถอนตัว หากถูกดำเนินคดี.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES