สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการดับเบิลยูเอชโอ ยอมรับ “ความพยายามที่ยาวนานร่วมศตวรรษ” ของทั้งสองประเทศ ในการกำจัดโรคนี้ โดยเขากล่าวว่า นี่คือข้อพิสูจน์เพิ่มเติม ซึ่งทำให้เห็นว่า ด้วยทรัพยากรที่เหมาะสม และความมุ่งมั่นทางการเมือง การกำจัดโรคมาลาเรียจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้

ตามข้อมูลของดับเบิลยูเอชโอ ประเทศที่จะได้รับการรับรองว่า “ปลอดมาลาเรีย” ต้องแสดงให้เห็นว่า วงจรการแพร่เชื้อมาลาเรียพื้นเมืองโดยยุงก้นปล่อง หยุดชะงักทั่วประเทศนั้น ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปีติดต่อกัน และต้องมีความสามารถในการป้องกันการแพร่ระบาดซ้ำอีกด้วย

ผู้ป่วยติดเชื้อมาลาเรียพลาสโมเดียม ไวแว็กซ์ (พีวี) คนสุดท้ายของอาเซอร์ไบจาน ถูกตรวจพบเมื่อปี 2555 ขณะที่ทาจิกิสถาน พบผู้ป่วยคนสุดท้ายในอีก 2 ปีต่อมา โดยทั้งสองประเทศมีระบบเฝ้าระวังโรคมาลาเรียแบบอิเล็กทรอนิกส์ระดับชาติ

ความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ในปัจจุบัน มีประเทศปลอดโรคมาลาเรียที่รับรองโดยดับเบิลยูเอชโอ รวมทั้งหมด 41 ประเทศ และ 1 ดินแดน ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนข้างต้น อยู่ในภูมิภาคยุโรป

นอกจากนี้ ดับเบิลยูเอชโอ ยังยอมรับความพยายามของอาเซอร์ไบจาน และทาจิกิสถาน ซึ่งส่งผลให้เกิดการลงทุนที่ยั่งยืน และการทุ่มเทของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ควบคู่ไปกับการป้องกันที่ตรงเป้าหมาย ตลอดจนการตรวจหา และการรักษาผู้ป่วยโรคมาลาเรียทุกคนตั้งแต่เนิ่น ๆ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES