สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ว่า หนังสือเปิดผนึก ซึ่งลงวันที่ 22 มี.ค. และมีลายเซ็นรวมมากกว่า 1,800 ลายเซ็น ภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ระงับการพัฒนาระบบระบบที่มี “ประสิทธิภาพ” มากกว่าจีพีที-4 ตัวใหม่ของบริษัท โอเพนเอไอ ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไมโครซอฟต์ ซึ่งสามารถตอบโต้การสนทนาเหมือนมนุษย์ แต่งเพลง และสรุปเอกสารที่มีเนื้อหายาวเหยียดได้
หนังสือเปิดผนึกระบุว่า ระบบเอไอที่มี “ความฉลาดเทียบเคียงกับมนุษย์” ก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงต่อมนุษยชาติ โดยอ้างถึงงานวิจัย 12 ชิ้น จากผู้เชี่ยวชาญหลายคน ซึ่งมีทั้งนักวิชาการในมหาวิทยาลัย ตลอดจนพนักงานปัจจุบัน และอดีตพนักงานของบริษัท โอเพนเอไอ, บริษัท กูเกิล และบริษัท ดีพมายด์ ที่อยู่ในเครือ
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์หลายคนกล่าวหาสถาบันฟิวเจอร์ ออฟ ไลฟ์ (เอฟแอลไอ) ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังหนังสือดังกล่าว ที่ได้รับทุนสนับสนุนหลักจากมูลนิธิ มัสก์ ฟาวน์เดชั่น ว่าให้ความสำคัญกับภาพของความอันตรายในจินตนาการ มากกว่าความกังวลโดยตรงเกี่ยวกับเอไอ เช่น อคติของการเหยียดเชื้อชาติ หรือการเหยียดเพศ
ผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอคนหนึ่ง กล่าวว่า มันไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับ “สิ่งที่ทรงพลังกว่า จีพีที-4” อีกทั้งหนังสือเปิดผนึก ยังอาจเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้สนับสนุนเอฟแอลไอด้วย
อีกด้านหนึ่ง นายแม็กซ์ เทกมาร์ค ประธานของเอฟแอลไอ ระบุว่า การรณรงค์เรียกร้องดังกล่าว ไม่ใช่ความพยายามที่จะขัดขวางความได้เปรียบทางองค์กรของบริษัท โอเพนเอไอ แต่อย่างใด
ขณะที่ นางชิริ โดริ-ฮาโคเฮน ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต กล่าวว่า เธอเห็นด้วยกับบางประเด็นในหนังสือเปิดผนึก แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการอ้างถึงผลงานวิจัยของเธอเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งโต้แย้งถึงความเสี่ยงร้ายแรง ที่เกิดจากการใช้เอไออย่างแพร่หลาย โดยการใช้งานในปัจจุบันอาจมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ, สงครามนิวเคลียร์ และภัยคุกคามอื่น ๆ ที่มีอยู่
เมื่อขอให้แสดงความเห็นต่อคำวิจารณ์ เทกมาร์ค กล่าวว่า ความเสี่ยงของเอไอ ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
