ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวช็อกของวงการกีฬาไทย หลังจากที่ “น้องเทนนิส” เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ประกาศเลิกเล่นทีมชาติ หลังจากจบศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปีหน้า
“น้องเทนนิส” เปิดใจผ่านรายการ “THE LOCKER ROOM ห้องไม่ลับ คลับซุปตาร์ by BDMS” ออกอากาศเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ถึงเหตุผลของการเตรียมอำลาทีมชาติไทยในครั้งนี้ว่า มาจากเรื่องของการบาดเจ็บที่สะสมมานาน
แต่ก่อนจะโบกมือลาเธอเองขอเดินหน้าคว้าเหรียญ “ปารีสเกมส์ 2024” ให้ได้เสียก่อน เนื่องจากเป็นการเติมความฝันให้กับตัวเองและยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการกีฬาไทยอีกด้วย
“หากสำเร็จ ก็จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศชาติทำให้ตอนนี้จิตใจมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ เพราะที่ผ่านมาการได้เหรียญทอง ที่ประเทศญี่ปุ่น คือการทำตามความฝันของพ่อ, ทำเหรียญนี้ให้กับกองเชียร์ และทำให้กับประเทศชาติ แต่ครั้งนี้ขอต่อสู้โดยเป้าหมายหลักนั่นคือเป็นกำไรชีวิตให้กับตัวเอง”
จอมเตะสาวเบอร์ 1 ของโลก เป็น 1 ใน 2 ของนักกีฬาไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ ได้ถึง 2 เหรียญ เธอคว้าเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล กับ เหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น (แข่งปี 2021)
ส่วนอีกคนคือ มนัส บุญจำนงค์ นักชกเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2024 และเหรียยเงิน โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่จีน
ดังนั้นหาก “น้องเทนนิส” คว้าเหรียญรางวัลใด เหรียญรางวัลหนึ่งมาครอง ก็จะเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญรางวัลมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติถึง 3 สมัยติดต่อกัน

สำหรับประวัติ เรืออากาศตรีหญิง พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือ น้องเทนนิส นั้น เกิดเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2540 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปัจจุบันอายุ 25 ปี เป็นบุตรสาวของ คุณพ่อสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ และ คุณแม่วันทนา วงศ์พัฒนกิจ (เสียชีวิต) สูง 173 ซม. หนัก 49 กก.
พาณิภัค เคยเปิดใจกับทีมข่าวว่า “พาณิภัค” เป็นชื่อที่คุณพ่อสิริชัย และคุณแม่วันทนา ตั้งให้ แปลว่า “พูดดีเป็นสิริมงคล” ส่วน “เทนนิส” ชื่อเล่นมีที่มาจากการที่เราเป็นครอบครัวกีฬากันทั้งบ้าน พ่อเป็นนักกีฬาฟุตบอล กรีฑา ว่ายน้ำ ส่วนแม่เป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำ และผู้นำการออกกำลังกายแอโรบิก ทำให้ลูกๆ ถูกปลูกฝังให้เล่นกีฬาและเป็นนักกีฬาไปด้วย
โดยพี่สาวชื่อ “โบว์ลิ่ง” (เรืออากาศเอกหญิง กรวิกา วงศ์พัฒนกิจ) เป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำ เช่นเดียวกับพี่ชายชื่อ “เบสบอล” (ศราวิน วงศ์พัฒนกิจ) เป็นอดีตนักกีฬาว่ายน้ำและอดีตนักกีฬาเทควันโด สมัยเด็กๆ พ่อชอบพาไปวิ่งตอนเช้าๆ พ่อชอบเล่นเทนนิส ก็ให้หนูช่วยเก็บลูกเทนนิสให้เป็นประจำ นี่ก็เป็นที่มาของชื่อ “เทนนิส” ด้วย
“ตอนเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลสุราษฎร์ธานี ก็เล่นกีฬาทุกอย่าง เพราะว่าเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม ตอนนั้นเราก็เล่นกีฬาสี ทั้งกรีฑา ที่ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนได้ไปคัดเลือกระดับอำเภอ แต่พอไประดับจังหวัดก็ไม่ติด กีฬาวอลเลย์บอล ก็เล่นมาแล้ว คือเล่นกีฬาสีเล่นทุกอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นสักอย่างเดียว หนูเล่นเพื่อหาเพื่อนค่ะ หาคนที่ชอบเล่นกีฬาเหมือนกัน อีกอย่างตอนเด็ก ๆ หนูไม่ค่อยแข็งแรง ผอมแห้งแรงน้อย อ่อนแอ ขนาดกินขนมที่เป็นซองๆ ยังแพ้เลยค่ะ แพ้ผงชูรส แพ้อาหารทะเล กุ้ง ปลาหมึก กินไม่ได้เลย พ่อก็เลยหากิจกรรมให้ทำ ให้ออกกำลังกายตลอด”

จุดเปลี่ยนที่น่าจะทำให้ น้องเทนนิส ก้าวมาสู่การเป็นฮีโร่ของคนไทย ก็น่าจะมาจากการเล่นวิ่ง 31 ขา ซึ่งตอนนั้นเธอพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ภาคใต้ แต่อยู่ๆ คุณพ่อสิริชัย ก็มาบอกว่า อยากให้ไปแข่งขันเทควันโด เธอจึงตัดสินใจไปแข่งเทควันโด ตอนนั้นทันที
พาณิภัค เล่นเทควันโด ตอน ป.3 อายุ 9 ขวบ แต่แชมป์แรกในการเล่นกีฬาเทควันโดได้ตอน ป.6 จากนั้นพอขึ้น ม.1 ก็ได้แชมป์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 ที่ จ.อุตรดิตถ์ ซึ่ง จอมเตะสาว บอกว่า รู้สึกดีใจมาก เพราะเราเล่นกีฬาไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง จึงถือเป็นการจุดประกายให้กับตัวเองที่จะมาเอาดีทางกีฬาชนิดนี้ด้วย ซึ่งต้องขอบพระคุณ ครูทรงศักดิ์ ทิพย์นาง ครูคนแรกที่สอนเทควันโดให้ ที่ยิมตาปีเทควันโด จ.สุราษฎร์ธานี
หลังเข้าสู่วงการเทควันโดเต็มตัว น้องเทนนิส ภายใต้การดูแลของ “โค้ชเช” ชัชชัย เช (เช ยอง ซอก) ก็พัฒนาฝีมือของตัวเองอย่างต่อเนื่อง กวาดแชมป์มาแล้วทุกทุกสนาม ทั้งซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ แชมป์อเชีย แชมป์โลก (2 สมัย) แชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 8 รายการ
หลังผิดหวังได้แค่เหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล เพราะเจ้าตัวมองถึงเหรียญทอง ก็ทำให้น้องเทนนิส รู้สึกท้อแท้ และจะเลิกเล่นทันที แต่สุดท้ายด้วยกำลังใจจากทุกคนรอบข้าง ก้ทำให้เธอกลับมามีไฟ มุ่งมั่น ตั้งใจอีกครั้ง กระทั่งคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับวงการเทควันโดไทย และวงการกีฬไทย กับเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ในที่สุด
กีฬาต่อสู้ ย่อมหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ และการปะทะกัน ผลที่ตามมาก็คือปัญหาหารบาดเจ็บ ซึ่งเทควันโด คือหนึ่งกีฬาที่ทำให้นักกีฬาได้รับบาดเจ็บสะสม ไม่แพ้กีฬาต่อสู่อื่นๆ ซึ่ง น้องเทนนิส เอง ก็เจอปัญหานี้เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็เป็นอีกเหตุผลของการประกาศอำลาทีมชาติล่วงหน้าของเธอ
น้องเทนนิส ไม่ใช่กีฬาที่สตรองเกอร์ตลอดกาล แม้จะมีผลงานที่เกรียงไกรกวาดแชมป์มาทุกสนาม ทุกรายการที่ลงแข่งขัน แต่บางช่วงเวลา เธอก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ อย่างศึกชิงแชมป์โลก 2022 ปีที่แล้ว เธอก็แพ้ให้กับสาวเม็กซิโก หยิบเพียงเหรียญทองแดง รวมทั้งรายการเล็กรายการน้อยอีกหลายรายการ ที่เธอเองก็ไม่ได้แชมป์

แต่จุดนี้ก็ไม่ได้ทำให้ท้อแท้แต่อย่างใด กลับมองว่าเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่จะนำมาพัฒนาและปรับปรุงตัวเองมห้ดียิ่งขึ้น เธอบอกเสมอว่า ไม่เคยคิดแข่งกับคู่ต่อสู้ แต่จะแข่งกับตัวเองมากกว่า เมื่อลงสนามไปแล้วไม่มีอะไรให้ต้องคิด นอกเสียจากว่าทำให้ดีที่สุดก็พอ
ปีนี้ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ มีคิวลงแข่งขันรายการใหญ่หลายรายการ เริ่มจากซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ช่วงต้นเดือน พ.ค. นี้ ต่อด้วยศึกชิงแชมป์โลก 2023 ที่อาเซอร์ไบจาน ปลายเดือน พ.ค. ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน ในเดือน ก.ย.-ต.ค.
ก่อนจะข้ามไปปีหน้ากับศึกใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่ง น้องเทนนิส ยืนยันแล้วว่า จะขอทุ่มเทอย่างสุดชีวิต เพื่อทิ้งทวนคว้าเหรียญประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์มาให้ประเทศไทยและคนไทยให้ได้
“น้องเทนนิส” จะทำได้หรือไม่ เชื่อว่าคนไทยจะลุ้นและเชียร์เธอไปพร้อมๆ กัน ในทุกเกม ทุกสนามที่ลงชิงชัยอย่างแน่นอน
“น้องเทนนิส” สู้ๆ เด้อครับ!!!