นายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่าหลังจาก ทล. เปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติพิเศษแบบไม่มีไม้กั้น (Multi-lane Free Flow) หรือ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 หรือวงแหวนกาญจนาภิเษก(บางปะอิน-บางพลี) จำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 65-ปัจจุบัน (เม.ย. 66) ระยะเวลาปีกว่าแล้ว พบว่าช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร ภาพรวม 95% ไม่มีรถสะสมติดขัดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางเหมือนก่อนหน้านี้

อีกทั้งปัจจุบัน M-Flow ได้การตอบรับจากผู้ใช้ทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถใช้บริการผ่านระบบ M-Flow เฉลี่ย 1.1 แสนคันต่อวัน เพิ่มขึ้นจากการเปิดให้บริการในช่วงแรกที่มีปริมาณผู้ใช้บริการผ่านระบบอยู่ที่เฉลี่ย 50,000 คันต่อวัน ขณะที่จำนวนสมาชิกของระบบ M-Flow ปัจจุบันเพิ่มอยู่ที่ 550,000 คัน และมีแนวโน้มที่ดี ยังคงมีการสมัครสมาชิกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ใช้ทางเริ่มคุ้นชินกับการใช้ระบบ ที่ไม่ยากและสะดวกต่อการเดินทาง 

นายธนศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเงื่อนไขของการใช้ระบบ M-Flow ผู้ใช้จะต้องชำระค่าผ่านทางภายใน 7 วัน โดยหากเกิน 7 วัน จะต้องจ่ายค่าปรับ 10 เท่าของค่าผ่านทาง ซึ่งยอมรับว่าในระยะแรกของการปรับตัว มีผู้ผ่านทางที่ชำะค่าบริการเกินกำหนดและมีการเสียค่าปรับค่อนข้างมาก แต่ปัจจุบันผู้ใช้บริการเข้าใจระบบมากขึ้น จึงมีผู้เสียค่าปรับน้อยมากไม่ถึง 10% ของจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมด

นายธนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมผู้ผ่านทางมอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเส้นทางนำร่องใช้ระบบ M-Flow ปัจจุบันมีสัดส่วนการชำระค่าบริการผ่านทาง แบ่งออกเป็น ระบบเงินสด 48% ระบบ M-pass 15% และระบบ M-Flow 37% โดย ทล. มีแผนจะขยายการติดตั้งระบบ M-Flow ไปยังมอเตอร์เวย์ สาย 6 ช่วงบางปะอิน-นครราชสีมา มอเตอร์เวย์สาย 81 ช่วงบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างงานโยธา รวมไปถึงมอเตอร์เวย์สาย 82 ช่วงบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ที่อยู่ระหว่างจัดทำร่างเอกสารประกวดราคาให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M)