สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 9 เม.ย. สถาบันอเมริกันในไต้หวัน ซึ่งในทางพฤตินัยคือ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงไทเป ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลวอชิงตัน “จับตาอย่างใกล้ชิด” ต่อภารกิจของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ( พีแอลเอ ) ในการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน


ขณะเดียวกัน สหรัฐมองว่า “ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย” ที่จีนถือว่า “การเปลี่ยนเครื่องบิน” ของประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวัน “เป็นเรื่องร้ายแรง” และใช้เรื่องดังกล่าวเป็น “ข้ออ้าง” ของ “การแสดงออกมากเกินไป”


นอกจากนี้ รัฐบาลวอชิงตันยืนยัน การยึดมั่นปฏิบัติตามหลักการจีนเดียว ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์การทูตระดับทวิภาคี ระหว่างจีนกับสหรัฐ ด้วยการยุติความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวัน เมื่อปี 2522 อย่างไรก็ดี รัฐบาลวอชิงตันยังคงมีความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการกับรัฐบาลไทเป จนถึงปัจจุบัน


ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการภูมิภาคตะวันออกของพีแอลเอซ้อมรบ บริเวณทางเหนือ ทางใต้ และทางตะวันออกของเกาะไต้หวัน เป็นเวลา 3 วัน ในชื่อ “ปฏิบัติการสามัคคีดาบคม” ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยสถานที่ฝึกซ้อมคือบริเวณทางเหนือ ทางใต้ และทางตะวันออกของเกาะไต้หวัน ซึ่งพีแอลเอ “วางแผนและเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า”


พีแอลเอ ยืนยันว่า การฝึกซ้อมรบดังกล่าว “มีความจำเป็น” เพื่อเป็นการ “เตือนอย่างจริงจัง” ไปยัง “กองกำลังฝักใฝ่การแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน” ซึ่งยังคงไม่ยุติ “การร่วมมือกับกองกำลังภายนอก” ขณะเดียวกัน การดำเนินการของพีแอลเอในครั้งนี้ ยังจะเป็นการยกระดับศักยภาพและประสิทธิภาพทางทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน


ด้าน กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน กล่าวว่า การซ้อมรบของพีแอลเอ “ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย” เนื่องจากเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังไช่พบหารือกับ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ที่ห้องสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ในเมืองซิมิวัลเลย์ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางกลับจากการเยือนเบลีซและกัวเตมาลา ซึ่งนับเป็นครั้งที่สองที่ไช่พบกับประธานสภาคองเกรสของสหรัฐ ต่อจากการพบหารือกับนางแนนซี เปโลซี ที่กรุงไทเป เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว.

เครดิตภาพ : REUTERS