ช่วงค่ำของวันที่ 10 เม.ย. 2566 เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ในพื้นทางด้านตะวันตกของรัฐเทกซัส ในเมืองดิมมิต ซึ่งเป็นพื้นที่ทำฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ ทำให้ฝูงวัวในฟาร์มเซาท์ฟอร์ค ตายไปเป็นจำนวนมากถึง 18,000 ตัว เทียบเท่ากับจำนวน 20% ของจำนวนวัวทั้งหมดที่ถูกเชือด เพื่อนำเนื้อมาจำหน่ายในสหรัฐแต่ละวัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบผู้เสียชีวิต แต่มีคนงานฟาร์มได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโดนโครงสร้างอาคารล้มทับ และได้รับการนำส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อาการคงที่ 

การระเบิดครั้งนี้ นับเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ฝูงวัวล้มตายเป็นจำนวนมหาศาลในคราวเดียว และเป็นจำนวนสูงสุดในหน้าประวัติศาสตร์ของเมือง นับตั้งแต่มีการติดตามกรณีเพลิงไหม้โรงนาและฟาร์มเกษตร โดยสถาบันดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ ตั้งแต่ปี 2556 

เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในปี 2563 ที่ฟาร์มโคนมทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ทำให้วัวตายไปราว 400 ตัว

พื้นที่เกิดเหตุคราวนี้ อยู่ในเขตคาสโตรเคาน์ตี ซึ่งมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า และเป็นที่ตั้งของฟาร์มโคนมหลายแห่ง มีผู้โพสต์ภาพและคลิปขณะเกิดเหตุหลายราย แสดงให้เห็นควันไฟสีดำขนาดใหญ่ลอยสู่ท้องฟ้า และซากวัวที่โดนย่างสด ซึ่งมีผู้ขนย้ายออกมาจากซากอาคาร

สาเหตุของการระเบิดและเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าอาจเกิดจากการทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์ในฟาร์ม ที่ทำให้เกิดประกายไฟ ทั้งนี้ ทีมดับเพลิงของรัฐเทกซัส กำลังสืบสวนสาเหตุและรายละเอียดของเหตุการณ์

ด้านนายกเทศมนตรี โรเจอร์ มาโลน กล่าวว่า เขาไม่เคยได้รับรายงานกรณีเพลิงไหม้ในโรงงานใด ๆ เลย เขาระบุว่า ฟาร์มโคนมเซาท์ฟอร์ค เพิ่งจะเปิดดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าวมาเพียง 3 ปี โดยมีลูกจ้างราว 50-60 คน

มีการประเมินจำนวนวัวที่ตายไปกับเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงไหม้ครั้งนี้ไว้ที่ 18,000 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัวนม คิดเป็นจำนวน 90% ของวัวทั้งหมดในฟาร์ม วัวแต่ละตัวมีราคาโดยเฉลี่ยที่ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68,000 บาท) ทำให้มูลค่าความเสียหายครั้งนี้ของทางฟาร์ม มีจำนวนหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยังไม่รวมค่าเสียหายของอุปกรณ์และโครงสร้างอาคารต่าง ๆ 

คาสโตรเคาน์ตี นับเป็นแหล่งผลิตนมและผลิตภัณฑ์จากนมที่ให้ปริมาณสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของรัฐเทกซัส โดยมีฟาร์มโคนมทั้งหมด 15 แห่ง ผลิตนมได้เดือนละ 148 ล้านปอนด์

แหล่งข่าวและเครดิตภาพ : usatoday.com