ช่วงเช้ามืดของวันที่ 15 เม.ย. 66 ช่างภาพรายหนึ่งในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแฟร์แบงก์ส รัฐอะแลสกา ได้ถ่ายภาพแสงประหลาดที่เกิดขึ้นเหนือท้องฟ้า เป็นรูปก้นหอยที่หมุนวนและเคลื่อนที่ได้ ล้อมรอบด้วยแสงออโรราหรือแสงเหนือ

ท็อดด์ ซาลัต ผู้ถ่ายภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวไว้ได้ เล่าว่า แสงดังกล่าวขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเคลื่อนที่ได้ ดูสวยงามเหมือนงานศิลปะบนท้องฟ้า วงแสงก้นหอยปรากฏขึ้นราว 5 นาที ก่อนจะหายไป 

ซาลัต กล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่ประหลาดพิลึกที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิต และไม่รู้ว่ามันคือแสงอะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร

ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือหลายร้อย กม. ในชุมชนคอตเซบู แถบอาร์กติก นางผดุงครรภ์ที่ชื่อว่า เอลิซาเบธ วิธนอลล์ ก็เห็นแสงประหลาดดังกล่าวเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คนแถบนี้เห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ บนท้องฟ้าบ่อยครั้งอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าเป็นเพียงลำแสงแปลก ๆ ที่อธิบายไม่ได้อีกประเภทหนึ่ง

ภาพถ่ายแสงก้นหอยของ เอลิซาเบธ วิธนอลล์

ปรากฏว่า “แสงประหลาด” นั้นไม่ใช่ของแปลกและมีที่มาจากฝีมือมนุษย์ ศาสตราจารย์ดอน แฮมป์ตัน จากสถาบันธรณีฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยอะแลสกา แฟร์แบงก์ส อธิบายว่า มันคือแสงที่เกิดจากเชื้อเพลิงส่วนเกินที่ถูกขับออกมาจากจรวดสเปซเอ็กซ์ ในโครงการทรานสปอร์เตอร์-7 ซึ่งปล่อยตัวออกจากฐานฟอลคอน 9 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ 3 ชม. ก่อนเกิดแสงประหลาด

ศาสตราจารย์ แฮมป์ตัน ชี้ว่า ไอน้ำจากเชื้อเพลิงส่วนเกินหรือ “ไอเสีย” ที่ถูกขับออกมาจากเครื่องยนต์ในสเตจที่ 2 ซึ่งจับตัวเป็นน้ำแข็งและจับแสงอาทิตย์ที่อยู่เหนือท้องฟ้าในระดับชั้นบรรยากาศที่สูงมาก ๆ ได้ ก่อให้เกิดการเรืองแสง และก่อรูปเป็นวงก้นหอยหมุนวน เหมือนรูปแบบของกาแล็กซีในอวกาศ เพียงแต่ปรากฏอยู่เหนือท้องฟ้าในอะแลสกา

คำอธิบายอย่างเหตุผลตามหลักการทางวิทยาศาสตร์นี้ ช่วยลดความตื่นตกใจและกังวลใจของประชาชนได้ และหันไปสนุกสนานกับการรับชมภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีผู้นำมาโพสต์ลงโซเชียลมีเดียแทน

แหล่งข่าว : nypost.com

เครดิตภาพ : Facebook/ Elizabeth Withnall, Todd Salat / AuroraHunter.com