สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติว่า การที่รัฐบาลตาลีบันไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่หญิงของยูเอ็นทำงานอีกต่อไป “เป็นการบ่อนทำลายพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม” ว่ายูเอ็นเอสซี “ไม่เคารพนโยบายของรัฐเอกราช”


เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุต่อไปว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นกิจการภายในของอัฟกานิสถาน” ซึ่ง “ไม่เกี่ยวข้องกับประเทศภายนอก” ทั้งนี้ รัฐบาลตาลีบันยืนยัน “การรักษาสิทธิขั้นพื้นฐาน” ให้กับหญิงชาวอัฟกันทุกคน แต่ “ความหลากหลายต้องไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้ความเคารพ”


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลตาลีบันยืนยัน การเห็นด้วยกับ “เนื้อหาบางส่วน” ของแถลงการณ์ ซึ่งระบุเกี่ยวกับ “สิทธิในการกำหนดอนาคตของอัฟกานิสถาน ต้องมาจากการตัดสินใจโดยชาวอัฟกัน และเป็นเรื่องภายในของชาวอัฟกันเท่านั้น”


อนึ่ง สหประชาชาติมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยงานทุกแห่งของยูเอ็นราว 3,300 คน ในอัฟกานิสถาน จากจำนวนดังกล่าวราว 400 คน เป็นผู้หญิง หยุดงานตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย. “ด้วยเหตุผลเกี่ยวกับความปลอดภัย”


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว รัฐบาลตาลีบันประกาศว่า เจ้าหน้าที่ในสังกัดองค์กรอิสระ (เอ็นจีโอ) ระหว่างประเทศทุกแห่ง ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในอัฟกานิสถาน “ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น” ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรชาวอัฟกันหรือชาวต่างชาติ แต่คำสั่งในเวลานั้น ยังไม่ครอบคลุมหน่วยงานของยูเอ็น.

เครดิตภาพ : AFP