รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (โมโนเรล) 2 สายแรกของประเทศไทย สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร(กม.) ภาพรวมการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 99% ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างในส่วนของสถานี และทางขึ้นลง ซึ่งเหลืออีกประมาณ 2 สถานี และเก็บรายละเอียดของงาน ขณะเดียวกันได้ดำเนินการทดสอบระบบการเดินรถเสมือนจริง(Trial Run) ควบคู่ไปด้วย โดยจะทดสอบให้เกิดความปลอดภัย 100% และให้การก่อสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จก่อน จึงจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้ เบื้องต้นบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานโครงการฯ มีแผนจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการเป็นกลุ่มในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 พ.ค.66
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ส่วนแผนการเปิดให้บริการจริง กำหนดไว้เบื้องต้นเป็นวันที่ 3 มิ.ย.66 โดยจะเก็บค่าโดยสาร ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกำหนดการทั้งวันที่จะเปิดให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการ และวันเปิดให้บริการจริงนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะปัจจุบันการก่อสร้าง และการทดสอบการเดินรถไฟฟ้ายังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ 100% จึงยังไม่สามารถสรุปวันที่ชัดเจนได้ อีกทั้งในขั้นตอนการเปิดให้บริการจริงนั้น ต้องมีกระบวนการขออนุมัติค่าโดยสารจากคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้ รฟม. คำนวณอัตราค่าโดยสารไว้เบื้องต้นแล้ว เตรียมเสนอบอร์ด รฟม., กระทรวงคมนาคม และ ครม. เห็นชอบเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ตามสัญญาสัมปทานปี 59 กำหนดค่าโดยสารเริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 42 บาท และก่อนเปิดให้บริการจะปรับอัตราค่าโดยสารตามดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) โดยจะใช้ CPI 3 เดือนก่อนวันที่เริ่มให้บริการ ดังนั้นหากสามารถเปิดบริการจริงได้ในวันที่ 3 มิ.ย.66 ตามแผน อัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 15 บาท สูงสุด 45 บาท ซึ่งปรับตาม CPI เดือน มี.ค.66 แต่หากไม่สามารถเปิดได้ตามกำหนดดังกล่าว ต้องปรับอัตราค่าโดยสารตาม CPI ใหม่อีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง 23 สถานี ที่คำนวณไว้เบื้องต้น หากเปิดให้บริการเดือน มิ.ย.66 อยู่ที่ 15-45 บาท อาทิ สถานีลาดพร้าว-ภาวนา 19 บาท, สถานีลาดพร้าว-โชคชัย 4 จ่าย 23 บาท, สถานีลาดพร้าว-ลาดพร้าว 71 จ่าย 27 บาท, สถานีลาดพร้าว-ลาดพร้าว 83 จ่าย 30 บาท, สถานีลาดพร้าว-มหาดไทย 33 บาท, สถานีลาดพร้าว-ลาดพร้าว 101 จ่าย 36 บาท, สถานีลาดพร้าว-บางกะปิ 39 บาท, สถานีลาดพร้าว-แยกลำสาลี 42 บาท และตั้งแต่สถานีลาดพร้าว-ศรีกรีฑาเป็นต้นไปจนถึงสถานีสำโรง ค่าโดยสาร 45 บาท
ขณะที่สถานีสำโรง-ทิพวัล 20 บาท, สถานีสำโรง-ศรีเทพา 25 บาท, สถานีสำโรง-ศรีด่าน 28 บาท, สถานีสำโรง-ศรีแบริ่ง 32 บาท, สถานีสำโรง-ศรีลาซาล 36 บาท, สถานีสำโรง-ศรีเอี่ยม 40 บาท, สถานีสำโรง-ศรีอุดม 43 บาท, สถานีสำโรง-สวนหลวง ร.9 เป็นต้นไปจนถึงสถานีลาดพร้าว ค่าโดยสาร 45 บาท อย่างไรก็ตามค่าโดยสารดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับจำนวนสถานี, ระยะทางที่ผู้โดยสารเดินทาง และค่า CPI ซึ่งตามปกติสถานีที่อยู่ภายในเมืองจะห่างกันประมาณ 1 กม. ขณะที่สถานีที่อยู่นอกเมืองจะอยู่ห่างกันประมาณ 1.5-2 กม. ดังนั้นจึงทำให้แต่ละสถานีจะมีอัตราการเพิ่มของค่าโดยสารไม่เท่ากัน อยู่ที่ประมาณ 2-5 บาท เช่น จากสถานีสำโรงไปสถานีทิพวัล 1 สถานี ค่าโดยสารเพิ่ม 5 บาท เพราะทั้ง 2 สถานีมีระยะห่างกันค่อนข้างไกล ขณะที่สถานีศรีเทพา-สถานีศรีด่าน 1 สถานี ค่าโดยสารเพิ่ม 3 บาท เพราะทั้ง 2 สถานีมีระยะห่างที่น้อยกว่าระหว่างสถานีสำโรง-สถานีทิพวัล เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร(กม.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ภาพรวมคืบหน้าประมาณ 96% คาดว่าจะทดลองเดินรถเสมือนจริงในเดือน ก.ค.66 และเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการเดือน ส.ค.66 เปิดบริการจริงตลอดเส้นทางปลายปี 66.
