จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับกุมตัว อดีตพระวชิรญาณโกศล (คม อภิวโร) หรือ “พระอาจารย์คม” วัดป่าธรรมคีรี อดีตพระมหาวุฒิมา เถาว์หมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี และน.ส.จุฑาทิพย์ ภูบดีวโรชุพันธุ์ ในข้อหาร่วมกันยักยอกเงินวัดแล้วกว่า 180 ล้านบาท อีกทั้งอดีตพระอาจารย์คมยังยอมรับด้วยว่า มีการเสพเมถุนภายในกุฏิด้วยนั้น

นายอินทพร จั่นเอี่ยม รอง ผอ.รักษาราชการ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า หลังจากที่อดีตพระอาจารย์คม รับสารภาพว่า มีการเสพเมถุนภายในวัดนั้น ถือว่าต้องอาบัติปาราชิก ไม่สามารถกลับไปบวชใหม่ได้แล้ว รวมไปถึงพระที่เสพเมถุนร่วมกับอดีตพระอาจารย์คม คือ อดีตพระมหาวุฒิมา และพระลูกวัดอีก 2 รูป ก็ถือว่าต้องอาบัติปาราชิกเช่นกัน และทั้งหมดได้ลาสิกขา หรือสึกไปแล้ว ซึ่งจากข้อมูลพบว่าวัดป่าธรรมคีรี มีพระสงฆ์อยู่ประจำ 4 รูป คือ อดีตพระอาจารย์คม อดีตพระมหาวุฒิมา และพระลูกวัดอีก 2 รูป ส่วนที่เหลือประมาณ 20 รูป เป็นพระสงฆ์ที่ไม่ได้อยู่ที่วัดดังกล่าวประจำ ดังนั้น จึงทำให้ขณะนี้วัดป่าธรรมคีรี ไม่มีพระสงฆ์อยู่ประจำแล้ว ต่อไปทางเจ้าคณะ จ.นครราชสีมา (ธรรมยุต) จะมีการพิจารณาให้พระสงฆ์มาอยู่จำพรรษาที่วัดนี้ต่อไป

นายอินทพร กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการสำรวจทรัพย์สินวัดป่าธรรมคีรีนั้น ในวันที่ 8 พ.ค. ทางคณะกรรมการสำรวจทรัพย์สินจะมีการเข้าไปในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จ เนื่องจากยังมีในบางพื้นที่ที่ปิดล็อก เช่น กุฏิส่วนตัวของอดีตพระอาจารย์คม และเมื่อสำรวจครบถ้วนแล้วจะมีการรายงานต่อเจ้าคณะ จ.นครราชสีมา (ธรรมยุต) ต่อไป