เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.จงเดช ศรีตะวัน สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ได้รับแจ้งความจาก น.ส.รัตติยา เตียวตระกูล อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสวัสดิภาพสัตว์ และอื่นๆ โดยแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 66 เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้แจ้งได้นำแมวจำนวน 4 ตัว ไปให้แก่ผู้ขออุปการะเลี้ยงดู ชื่อนายพรดนัย หรือ พระคิม ซึ่งได้ทักขอแมวมายังเฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.พรรณิภา คงรอด 4 ตัว

หลังจากนั้น น.ส.รัตติยา จึงได้ตกลงที่จะนำแมวไปส่งให้ที่วัด และเข้าไปดูยังสถานที่เลี้ยงในกุฏิพระคิม ซึ่งอยู่ในแห่งหนึ่ง ต.สองคลอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ในระหว่างนั้น ได้พบพระเอ (นามสมมุติ) ที่อยู่กุฏิข้างๆ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า พระคิม มีพฤติการณ์นำแมวที่อุปการะ และขอมาเลี้ยงจากที่ต่างๆ มาฆ่า และเผาบริเวณด้านหลังกุฏิอยู่เสมอและทำเป็นประจำ โดยยังมีซากของแมวที่ถูกเผาอยู่ด้านหลังกุฏิ ตนจึงไปตรวจสอบบริเวณด้านหลังกุฏิตามที่ทราบ พบว่ามีร่องรอยของการผาแมวจริง ตนจึงไม่ได้มอบแมวทั้ง 4 ตัว ให้แก่พระคิมตามที่ขอมาไป พร้อมได้พบลูกแมวที่ยังมีชีวิตอยู่ในกุฏิอีกจำนวน 2 ตัว จึงได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น

ต่อมาวันนี้ 17 พ.ค. 66 ตนจึงเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับ พระคิม ตามกฎหมาย และเมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ได้นำตัวพระคิม มายังวัดดังกล่าว เพื่อทำการสึกออกจากการเป็นพระ ด้านผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายพรดนัย ว่า ทำไมถึงต้องกระทำเช่นนี้ นายพรดนัย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า พลาดไป และไม่ได้ให้คำตอบใดๆ กับผู้สื่อข่าว

ด้าน พระเอ (นามสมมุติ) ที่กุฏิอยู่ห้องข้างของนายพรดนัย กล่าวว่า กุฏิที่ตนอยู่นั้น อยู่ติดกับห้องที่นายพรดนัย ไว้เลี้ยงแมว โดยนายพรดนัยนั้น จะเป็นคนที่มีนิสัยปกติ ไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับใครในวัด แต่ด้วยพฤติกรรมของนายพรดนัย ตนเห็นมาโดยตลอดในช่วงหลังเวลา 21.00 น. นายพรดนัยจะเข้ามายังห้องแมว และนำแมวคลุมด้วยผ้าเหลือง จากนั้นก็ทุบลงบนพื้น บางครั้งก็ใช้ต้นกล้วยทุบตีลูกแมว ตนได้ยินเสียงร้องของแมวมาโดยตลอด จึงได้แอบดูที่รูข้างฝา พบว่าบางครั้งยังใช้เข็มสักยันต์ จิ้มไปที่ตัวแมวและนำมาสักที่ตัวของตนเอง ล่าสุดจนเมื่อคืนวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงทุบแมวอีกครั้งหนึ่ง จึงได้ลงจากกุฏิไปตามพระอีกรูปหนึ่งมาช่วยกันดูแล้วถ่ายคลิปไว้ เพื่อเป็นพยานว่ามีเหตุการณ์ทำร้ายแมว และกินแมวจริง

“ที่ผ่านมา ลองถามพระรูปอื่นดู ปรากฏว่าพระรูปอื่นๆ ก็เคยรู้พฤติกรรมของพระคิมมา แต่ว่าไม่มีใครกล้าไปยุ่ง ด้วยกลัวโดนทำร้าย แต่ที่ตนเองออกมาเปิดเผยครั้งนี้ เนื่องจากทนไม่ไหวจริงๆ และก็เกิดความสงสารแมวด้วย แต่เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากอาการหลอน เนื่องจากตู้เย็นบนกุฏินั้น มีน้ำกระท่อมอยู่เต็มทั้ง 2 ตู้ แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง เนื่องจากกลัวโดนนายพรดนัยทำร้าย” พระเอ กล่าว

ด้าน น.ส.รัตติยา กล่าวว่า พระคิมได้ทักเข้าไปในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อขอแมวมาเลี้ยง พร้อมทั้งถ่ายคลิปในกุฏิว่า มีกรง มีอาหารพร้อมสำหรับจัดเลี้ยงแมวได้ จึงได้ตกลงนำแมวที่มีอยู่จำนวน 4 ตัว มามอบให้ที่กุฏิวัด โดยให้เจ้าหน้าที่เป็นชายขึ้นไปมอบ แต่มีพระที่อยู่บริเวณนั้นเดินมาบอกกับตนว่า ให้ตนเอาแมวกลับไป เนื่องจากพฤติกรรมของพระคิม ชอบทำร้ายแมวและทำมาอย่างต่อเนื่อง ตนจึงตัดสินใจให้เจ้าหน้าที่นำแมวกลับก่อน วันนี้จึงได้ไปแจ้งความที่ ส.ภ.บางปะกง และมาทำการตรวจสอบหาหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับ นายพรดนัย ตามกฎหมายต่อไป