สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงกัมปาลา ประเทศยูกันดา เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า รัฐสภายูกันดา ทวีตว่า มูเซเวนีอนุมัติร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ผ่านการเห็นชอบอย่างท่วมท้นในเดือนนี้ โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งให้เหตุผลว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการปกป้องวัฒนธรรมและค่านิยมของชาติ

ทั้งนี้ กฎหมายฉบับแก้ไขระบุว่า การระบุว่าเป็นเกย์จะไม่ถือเป็นความผิดทางอาญา แต่ “การมีส่วนร่วมในพฤติกรรมรักร่วมเพศ” จะเป็นความผิดที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิต แม้มูเซเวนีแนะนำให้ฝ่ายนิติบัญญัติลบข้อกำหนดที่ว่า “การรักร่วมเพศซ้ำเติม” เป็นความผิดซึ่งมีโทษสูงสุด แต่ฝ่ายนิติบัญญัติปฏิเสธความเคลื่อนไหวข้างต้น นั่นจึงทำให้ผู้กระทำผิดซ้ำอาจถูกตัดสินประหารชีวิต

สหรัฐ, สหภาพยุโรป (อียู) และกลุ่มสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ต่างประณามร่างกฎหมายดังกล่าว เช่นเดียวกับนายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่อธิบายว่า กฎหมายใหม่ของยูกันดา “อาจอยู่ในกลุ่มกฎหมายซึ่งเลวร้ายที่สุดในโลก”

ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา รัฐสภายุโรป (อีพี) ลงมติประณามร่างกฎหมายต่อต้านการรักร่วมเพศ และขอให้ประเทศสมาชิกอียู กดดันมูเซเวนีไม่ให้บังคับใช้กฎหมายนี้ โดยเตือนว่า ความสัมพันธ์กับรัฐบาลกัมปาลาตกอยู่ในความเสี่ยง ขณะที่ทำเนียบขาวของสหรัฐ เตือนรัฐบาลยูกันดาเกี่ยวกับความเสี่ยงของการถูกคว่ำบาตร หากกฎหมายมีผลบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม กฎหมายข้างต้นได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในยูกันดา โดยประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และกล่าวหาว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่นำเข้ามาจากชาติตะวันตก ซึ่งกลุ่มรักร่วมเพศในประเทศนี้ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP